โพลชี้ชาวมะกันต้องการเห็น “ทรัมป์” พยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจมากขึ้น

ผลสำรวจจาก 2 สำนักบ่งชี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่สร้างความกังวลกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อให้กับชาวอเมริกัน อันเนื่องมาจากการใช้มาตรการมากมายในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ของการดำรงตำแหน่ง

ผลสำรวจจาก CBS News/YouGov ที่มีการเผยแพร่วันอาทิตย์ (2 มี.ค.) บ่งชี้ว่า ราว 80% ของชาวอเมริกันที่ตอบแบบสอบถามระบุว่า ทรัมป์ควรให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นหลัก นอกจากนี้ พวกเขาเชื่อว่า ปัญหาที่ต้องให้ความสำคัญคือชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก ความพยายามในการลดจำนวนพนักงานของรัฐบาลกลาง และภาษีศุลกากร โดยมีเพียง 29% เท่านั้นที่มองว่า ทรัมป์ควรให้ความสำคัญกับเงินเฟ้อเป็น “อย่างมาก”

ขณะที่ผลสำรวจของซีเอ็นเอ็น (CNN) ซึ่งจัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 24-28 ก.พ. พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 40% ระบุว่า ทรัมป์ให้ความสำคัญกับปัญหาอย่างถูกต้อง ซึ่งต่ำกว่าเมื่อเทียบกับผลสำรวจเมื่อวันที่ 13-17 ก.พ. ที่ระดับ 45% นอกจากนี้ คะแนนความนิยมล่าสุดของทรัมป์ที่ ระดับ 48% นั้น แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงกลางเดือนก.พ.

ผลการสำรวจดังกล่าวคล้องกับผลการสำรวจของ Bloomberg News/Harris ในช่วงต้นเดือนก.พ. ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ชาวอเมริกันเกือบ 60% คาดว่า มาตรการภาษีนำเข้าสินค้าของทรัมป์จะส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้น ซึ่งแม้แต่สมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคนก็ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับนโยบายการค้าของเขา

สก็อตต์ เบสเซนท์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวในรายการ “Face the Nation” หลังจากทราบผลสำรวจของซีบีเอส (CBS) ว่า ทรัมป์เพิ่งดำรงตำแหน่งได้เพียง 5 สัปดาห์เท่านั้น และ “เรากำลังดำเนินการเพื่อให้ราคาสินค้าเหล่านี้ปรับตัวลดลง”

ผลสำรวจของ CBS พบว่า ราว 2 ใน 3 ของผู้เข้าร่วมการสำรวจนั้น เห็นด้วยกับทรัมป์ในการลดการข้ามพรมแดนของผู้อพยพระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโก นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมการสำรวจยังมีมุมมองเกี่ยวกับการจัดการเศรษฐกิจของทรัมป์ในเชิงบวกเล็กน้อย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้คะแนนนิยมของทรัมป์ยังคงเป็นบวก แม้จะชะลอตัวลงเล็กน้อยจากการสำรวจเมื่อสองสามสัปดาห์ที่แล้ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 มี.ค. 68)

Tags: , ,
Back to Top