ราคาข้าวญี่ปุ่นยังคงสูง แม้รัฐบาลมีแผนระบายข้าวจากคลังสำรอง

ราคาข้าวในญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ตลาดคาดหวังว่าราคาข้าวจะกลับสู่ภาวะปกติ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศเมื่อสองสัปดาห์ก่อนหน้านี้ว่า จะระบายข้าวในคลังสำรองเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคา

รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ว่าจะระบายข้าวจากคลังสำรองออกมาในปริมาณสูงถึง 210,000 ตัน โดยจะส่งมอบข้าวให้กับผู้ค้าส่งในช่วงกลางเดือนมี.ค.หลังจากการประมูลซื้อ และคาดว่าจะนำข้าวออกวางจำหน่ายในร้านค้าในช่วงปลายเดือนมี.ค.ถึงต้นเดือนเม.ย.

กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นคาดหวังว่า การประกาศแผนดังกล่าวจะทำให้ราคาข้าวลดลงก่อนที่จะมีการจำหน่ายข้าว อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าส่งข้าวรายใหญ่รายหนึ่งกล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่เป็นเช่นนั้น

เบโคคุ ดาตาแบงก์ (Beikoku Databank) บริษัทสำรวจข้อมูลข้าวของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ราคาขายส่งข้าวกล้องโคชิฮิคาริ (Koshihikari) จากจังหวัดนีงาตะอยู่ที่ประมาณ 48,300 เยน (320 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ถึง 48,500 เยนต่อ 60 กิโลกรัม ณ วันที่ 26 ก.พ. ซึ่งเกือบจะเท่ากับเมื่อเดือนที่แล้ว

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในระยะแรกรัฐบาลจะระบายข้าวจำนวน 150,000 ตัน และอาจระบายเพิ่มอีก 60,000 ตันหากจำเป็น

ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่า ราคาข้าวในปี 2567 เพิ่มขึ้น 27.7% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2518 ส่วนในเดือนเดือนธ.ค. 2567 เพียงเดือนเดียว ราคาข้าวเพิ่มขึ้น 64.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวในญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นนั้น มาจากการที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวได้ไม่ดีในช่วงฤดูร้อนของปี 2566 เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลให้ปริมาณข้าวสำหรับปีถัดมาลดลง อีกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นยังทำให้ความต้องการข้าวในร้านอาหารเพิ่มขึ้นด้วย

ในปัจจุบันรัฐบาลญี่ปุ่นมีข้าวสำรองอยู่ 910,000 ตัน และปริมาณข้าวที่วางแผนจะระบายออกจากคลังนั้น คิดเป็นสัดส่วนกว่า 20% ของปริมาณข้าวสำรองทั้งหมด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 มี.ค. 68)

Tags: ,
Back to Top