ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวในวันนี้ (1 มี.ค.) ว่า เขาจะพยายามหลีกเลี่ยงการแตกแยกระหว่างสหรัฐฯ ยูเครน และกลุ่มประเทศ G7 หลังจากที่มีการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน
อิชิบะกล่าวกับผู้สื่อข่าวในโตเกียวว่า การปะทะคารมกันระหว่างทรัมป์และเซเลนสกีระหว่างการพบปะกันในกรุงวอชิงตันเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) เป็น “เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด”
“ญี่ปุ่นต้องทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อป้องกันการแตกแยกระหว่างสหรัฐฯ ยูเครน และกลุ่ม G7” อิชิบะกล่าว
เมื่อเซเลนสกีกดดันให้สหรัฐฯ ให้คำมั่นเรื่องความมั่นคงอย่างเป็นรูปธรรม ทรัมป์และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์รู้สึกไม่พอใจเมื่อได้ฟังคำพูดของผู้นำยูเครนเกี่ยวกับสงคราม และความสงสัยของเซเลนสกีเกี่ยวกับการทำข้อตกลงของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย
“นี่ไม่ใช่เรื่องที่ควรใช้อารมณ์ ต้องใช้การทูตที่มีความเมตตาและความอดทนเพื่อบรรลุสันติภาพ” อิชิบะกล่าว
ด้านทาเคชิ อิวายะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ญี่ปุ่นจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้มีการบรรลุสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืนโดยเร็วที่สุด
แต่การปะทะกันของผู้นำทั้งสองในครั้งนี้ได้สร้างข้อสงสัยเกี่ยวกับการหาทางออกในสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยแหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่นแสดงความกังวลว่าเหตุการณ์ในทำเนียบขาวซึ่งขัดต่อธรรมเนียมการทูตอาจทำให้กระบวนการที่จะนำไปสู่การหยุดยิงล่าช้าออกไป
“นี่เป็นรูปแบบที่เราไม่ค่อยเห็นในด้านการทูต” เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศกล่าว “แม้ว่าท่าทีที่แตกต่างกันจะปรากฏชัดแล้ว แต่สิ่งที่ต้องทำเพื่อการหยุดยิงก็ยังคงเหมือนเดิม”
ญี่ปุ่นพร้อมกับสมาชิก G7 อื่นๆ ยังคงรักษานโยบายที่ให้การสนับสนุนยูเครนและดำเนินการคว่ำบาตรรัสเซียต่อไปนับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซียเริ่มต้นขึ้นในเดือนก.พ. 2565
สำหรับกลุ่ม G7 ประกอบด้วย สหราชอาณาจักร, แคนาดา, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, อิตาลี, ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา รวมถึงสหภาพยุโรป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มี.ค. 68)
Tags: ชิเงรุ อิชิบะ, นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น, ยูเครน, สหรัฐ