นักลงทุนเดินหน้าขายบิตคอยน์อย่างต่อเนื่องในช่วงเช้าวันนี้ (28 ก.พ.) ส่งผลให้ราคาบิตคอยน์ร่วงลงไปแล้ว 25% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้ไม่ถึง 6 สัปดาห์ก่อน เนื่องจากนักลงทุนปรับโพสิชันการลงทุนหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10.13 น. ของวันนี้ตามเวลาสิงคโปร์ ราคาบิตคอยน์ร่วงลง 2.6% สู่ระดับ 82,220 ดอลลาร์ หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.
การที่บิตคอยน์ถูกเทขายออกมาอย่างต่อเนื่องสะท้อนให้เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลมีทิศทางที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้ สินทรัพย์ดังกล่าวได้รับความนิยมหลังจากปธน.ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง โดยราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 109,241 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ซึ่งเป็นวันที่ปธน.ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง แต่ราคาร่วงลงนับตั้งแต่นั้นมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับท่าทีอันแข็งกร้าวของปธน.ทรัมป์ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ
“เมื่อพิจารณาจากสภาพแวดล้อมของเศรษฐกิจมหภาค ก็ไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นราคาบิตคอยน์อยู่ในระดับนี้” สเตฟาน ฟอน เฮนิช ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายนอกตลาดของบริษัท Bitgo กล่าว และเสริมว่า นักลงทุนยังคงรอให้ปธน.ทรัมป์ออกมาตรการที่เป็นรูปธรรมสำหรับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งรวมถึงการตั้งกองทุนสำรองบิตคอยน์
การร่วงลงของราคาบิตคอยน์ในวันนี้เกิดขึ้นในขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียถูกเทขายออกมาอย่างหนักเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนในภูมิภาคมีปฏิกิริยาต่อมาตรการภาษีศุลกากรล่าสุดของปธน.ทรัมป์ โดยเขายืนยันว่าสหรัฐฯ จะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ตามกำหนดเดิมในวันที่ 4 มี.ค. และจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค.เช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 68)
Tags: bitcoin, Cryptocurrency, คริปโทเคอร์เรนซี, บิตคอยน์, สินทรัพย์ดิจิทัล