บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) ประกาศผลการดำเนินงานปี 67 รับรู้กำไรส่วนของบริษัทฯ จำนวน 6,127 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปี 66 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.82 บาท และกำไรก่อนต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 15,906 ล้านบาท
นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนจากกำไรส่วนของบริษัท เพิ่มขึ้น 19% และ EBITDA เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปี 66 โดยมีปัจจัยบวกจากรายได้จากส่วนแบ่งกำไรของกิจการร่วมทุน จำนวน 6,798 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 78% เป็นผลมาจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกอง ชุดที่ 1 และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตันในอินโดนีเซีย
สำหรับรายได้รวมในปี 67 อยู่ที่ 42,203 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจผลิตไฟฟ้าถือเป็นแหล่งรายได้หลักทำรายได้ 40,024 ล้านบาท คิดเป็น 95% ของรายได้รวม โดยเป็นรายได้ที่ได้จากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิล 34,326 ล้านบาท และรายได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 5,698 ล้านบาท ส่วนรายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภคและอื่น ๆ 2,179 ล้านบาท คิดเป็น 5% ของรายได้รวม
“บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจผลิตไฟฟ้าจะยังคงเป็นธุรกิจหลัก ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการทบทวนและปรับแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ ให้มีความยืดหยุ่นเพื่อให้สามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนโครงการด้านพลังงานและไฟฟ้า นวัตกรรมที่เป็นโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานทั้งในประเทศไทยและประเทศเป้าหมาย
ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มศึกษาพลังงานรูปแบบใหม่ที่จะนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า ได้แก่ เชื้อเพลิงกรีนไฮโดรเจน เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบโมดูลาร์ ระบบกักเก็บพลังงานรูปแบบแบตเตอรี่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมุ่งที่การบริหารจัดการพอร์ตสินทรัพย์ที่มีอยู่แล้วเพื่อให้สามารถสร้างรายได้เสริมหนุนต่อการเติบโตของบริษัทฯ ให้ดียิ่งขึ้น สำหรับแผนกลยุทธ์ดังกล่าว กำหนดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1 ปีนี้” นายนิทัศน์ กล่าว
ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธ.ค.67 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 214,337 ล้านบาท หนี้สินรวม 107,963 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 106,374 ล้านบาท สำหรับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน อยู่ที่ 1.01 เท่า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.พ. 68)
Tags: RATCH, นิทัศน์ วรพนพิพัฒน์, ราช กรุ๊ป, หุ้นไทย