
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) ว่า แผนเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นวงกว้างจะเดินหน้าต่อไป เมื่อการชะลอเวลาบังคับใช้ระยะเวลา 1 เดือนสิ้นสุดลงในสัปดาห์หน้า
ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าว ณ ทำเนียบขาวหลังถูกถามเกี่ยวกับแผนภาษีที่ถูกเลื่อนออกไปว่า “ภาษีศุลกากรจะดำเนินต่อไปตามกำหนดการ”
ทรัมป์อ้างว่า สหรัฐฯ “ถูกเอาเปรียบ” จากต่างชาติในทุก ๆ ด้าน” พร้อมเน้นย้ำแผนการตอบโต้ของเขาที่เรียกว่าภาษีตอบโต้ (reciprocal tariff)
ทรัมป์กล่าวว่า “ภาษีนำเข้าจะถูกนำมาใช้ และเราจะได้คืนสิ่งที่เสียไปมากมาย”
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. เพื่อกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% และอัตราภาษีนำเข้าพลังงานของแคนาดา 10%
ทรัมป์ ซึ่งยกย่องการใช้ภาษีนำเข้าเป็นทั้งเครื่องมือในการเจรจาและแหล่งรายได้ ออกคำสั่งดังกล่าวโดยอ้างความล้มเหลวของเม็กซิโกและแคนาดาในการหยุดยั้งอาชญากรรมและการค้ายาเสพติดที่ข้ามชายแดนเข้ามายังสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้ระงับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าใหม่ในอีก 2 วันต่อมา หลังจากคลอเดีย เชนบาม ปธน.เม็กซิโก และจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ต่างให้คำมั่นสัญญาว่า จะส่งเสริมความพยายามในการปราบปรามบริเวณชายแดนของทั้งสองชาติ
ทั้งนี้ ทรัมป์ได้ประกาศข้อตกลงใหม่ผ่านทรูธ โซเชียลของเขาเมื่อวันที่ 3 ก.พ. โดยระบุว่า ภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาจะถูกระงับเป็นเวลา 30 วัน ขณะที่ภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกจะถูกเลื่อนออกไป 1 เดือน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.พ. 68)
Tags: ภาษีสินค้านำเข้า, เม็กซิโก, แคนาดา, โดนัลด์ ทรัมป์