
นายณัฐนนท์ อรัณยกานนท์ Fund Manager , Asian Equities บลจ.อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) มองว่าดัชนี SET ระดับ 1,250 จุด มี Downside 4% ที่ระดับ 1,200 จุด ขณะที่ Upsize +20% อยู่ที่ระดับ 1,450 จุด
ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยยังเผชิญกับวิกฤดิศรัทธาด้านความเชื่อมั่น ขณะที่เศรษฐกิจ (GDP) เติบโตไม่หวือหวา และความเชื่อมั่นธุรกิจไทยลดลงจากส่วนใหญ่เป็น Old Economy ไม่ได้มีกลุ่มชิปหรือกลุ่มเทคโนโลยีมากนัก โดยหุ้นใหญ่ปรับตัวลงหนัก ทำให้ภาพรวมดัชนีปรับลงจน Valuation ถูกแล้ว
ดัชนี SET ณ ปัจจุบันมาแกว่งอยู่ในบริเวณ 1,250 จุด แต่เนื่องจากยังปรับตัวลงจากความไม่แน่นอนสูง ดูจาก Valuation ปัจจุบัน P/E 12-13 เท่า แต่กำไร บจ.ติดลบ 5% วันนี้ downside ค่อนข้างจำกัด แต่ดัชนีหุ้นไทยตรงไหนที่เหมาะสมก็ขึ้นกับกำไร บจ.”นายณัฐนนท์ กล่าว
นายณัฐนนท์ กล่าวว่า ภาพเศรษฐกิจไทยมีแรงส่ง ในกรณี Base case คาดว่ากำไร บจ.เติบโต 5-8% หรือ 90 บาท/หุ้น แต่เฉพาะบางกลุ่ม อาทิ ค้าปลีก แบงก์ เป็นต้น ขณะที่มองว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ย Surprise ตลาด ขณะที่ภาคธนาคารปัญหาหนี้ NPL ลดลง คุณภาพของสินเชื่อดูดีขึ้น รวมถึงการเรียกความเชื่อมั่นของบจ. อาทิ การซื้อหุ้นคืนการจ่ายปันผลเพิ่มขึ้น และแรงขายกองทุน LTF ชะลอ
อย่างไรก็ดี SET อาจจะมีดาวน์ไซด์จากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่ยังมีความไม่แน่นอน นอกจากนี้มีโอกาสที่ธนาคารสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยไม่มาก
ดังนั้น แนะนำเฟ้นหาหุ้นขนาดกลาง-เล็กในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เติบโตได้ในอนาคต ได้แก่ กลุ่ม Wellness , Green energy, Digital innovation, Global Supply Chain, Food and Travel ส่วนหุ้นใหญ่มองว่ายังถูกกดดันจากแรงขายต่างชาติ
นอกจากนี้ยังแนะนำการลงทุนหุ้นอินเดียที่ยังเติบโตได้ในช่วง 3-5 ปี แม้ไตรมาส 4/67 เศรษฐกิจปรับลง แต่คาดว่าเศรษฐกิจอินเดียยังเติบโตได้ในระดับ 6% จากเดิมเติบโต 7-8% ถือว่าการเติบโตยังแข็งแกร่ง ราคาหุ้นปรับตัวลงมองเป็นจังหวะเข้าซื้อเพื่อรับกับการเติบโตในระยะยาว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 68)
Tags: GDP, ณัฐนนท์ อรัณยกานนท์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย, อเบอร์ดีน, เศรษฐกิจไทย