
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น GULF และ INTUCH ที่เจอแรงขายอย่างหนักเมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) สาเหตุคาดว่า มาจากการปรับพอร์ตของ “กองทุน” ที่ต้องการลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทใหม่ (NewCo) ภายหลังผ่านช่วงการจ่ายเงินปันผล (XD) ไปเรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากหมวดธุรกิจของบริษัทใหม่ภายหลังการควบรวมกิจการของ GULF และ INTUCH จะยังคงอยู่ใน”กลุ่มพลังงาน” ทำให้ “กลุ่มผู้ลงทุน” ที่เป็นกองทุนในและต่างประเทศที่มีนโยบายกำกับการถือครองหุ้นในแต่ละกลุ่ม หรือหมวดหมู่ของแต่ละอุตสาหกรรมต้องทยอยปรับพอร์ตเทขายหุ้นออกมา เพื่อคงสัดส่วนไม่ให้การถือหุ้นในบริษัทใหม่ที่อยู่ใน “กลุ่มพลังงาน” มีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
โดยการถือครองของหุ้นแต่ละตัว ของแต่ละกองทุน จะมีนโยบายที่แตกต่างกันออกไป อาจจะมีการกำหนดว่าในแต่ละ Sector ต้องถือห้ามเกินกี่เปอร์เซ็นต์ หรืออาจจะมีการกำหนด Single Stock Limit ที่ระบุว่า ห้ามถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเกินกี่เปอร์เซ็นต์ อย่างนี้เป็นต้น
ทำไมต้องเทขายหุ้นเพื่อปรับพอร์ต
ถึงกระนั้นก็ตาม มีหลายคนอาจจะตั้งคำถามขึ้นมาว่า ทำไมถึงต้องมาขายหุ้น หรือมาปรับพอร์ตกันเมื่อวานนี้!?
มีความเป็นไปได้ว่า กองทุนเหล่านั้น ต้องการรอรับเงินปันผลก่อนแล้วจึงขายออกมา แต่อาจจะมีการประเมินผลกระทบทางด้านราคา (Price Impact) น้อยเกินไป
เนื่องจาก ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมี “สภาพคล่อง” ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด จากวอลุ่มซื้อขายรายวันเฉลี่ยรายวันของปี 65-66-67 อยู่ที่ 7.6 หมื่นล้านบาท, 5.3 หมื่นล้านบาท, 4.6 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ
ล่าสุด วอลุ่มซื้อขายรายวันเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปี 68 ถึงปัจจุบัน (YTD) อยู่ที่เกิน 4 หมื่นล้านบาทไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้การ Rebalance พอร์ตครั้งนี้มีผลกระทบมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
ปัญหานี้เคยเกิดขึ้นกับหุ้น AWC ของ “เสี่ยเจริญ” ที่ถูก MSCI Rebalance เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 แต่สภาพคล่องไม่พอ ทำให้มีออร์เดอร์ที่เหลือค้างอยู่ ไม่สามารถขายได้หมดอีกจำนวน 162 ล้านหุ้น จึงต้องย้ายมาขายวันถัดไป
นอกจากนี้ การที่ราคาหุ้น GULF-INTUCH ปรับตัวลดลง อาจจะไปแตะ Trigger Stop Loss ของนักลงทุนรายย่อยที่ไปขอวงเงินมาร์จิ้น รวมถึงผู้ที่ถือสถานะ Long บน Single Stock Futures ก็เป็นได้
ทำไมหุ้น GULF-INTUCH ต้องลงพร้อมกัน!?
สาเหตุที่หุ้นทั้งสอง “ร่วง” พร้อมกัน เพราะหุ้น GULF และหุ้น INTUCH มี Swap ratio ที่ชัดเจนและตายตัวอยู่แล้วที่ออกโดยบริษัท ซึ่งเป็นตัวล็อกให้ราคาหุ้นของทั้งสองตัวนี้เคลื่อนไหว หรือขยับไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับ “ภัยร้าย” ที่น่ากลัวที่สุดที่เป็นเรื่องใหญ่ของตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ไม่ใช่ธุรกรรมการ Short selling ไม่ใช่โปรแกรม High Frequency Trading (HFT) อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่มันคือ “การขาดสภาพคล่อง” ต่างหาก
ณ วันนี้ก็ได้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบอย่างชัดเจนแบบมีหลักฐาน อย่างน้อยๆ 2 เคส ในหุ้นของ “เจ้าสัวเจริญ” ในปีก่อน และลามมาถึง “เจ้าสัวกลาง” ในปีนี้
ธิติ ภัทรยลรดี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 68)
Tags: GULF, INTUCH, SCOOP, กองทุน, ผู้ถือหุ้น, มองมุมต่าง