
เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล สั่งกองทัพปฏิบัติการ “เข้มข้น” ในเขตเวสต์แบงก์ หลังเกิดเหตุรถบัสระเบิดใกล้กรุงเทลอาวีฟเมื่อวันพฤหัสบดี (20 ก.พ.) โดยทางการระบุว่าเป็นความพยายามก่อเหตุโจมตีครั้งใหญ่
ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรถบัส 3 คัน บริเวณชานกรุงเทลอาวีฟ 2 จุด พร้อมพบระเบิดอีก 4 ลูก โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่อู่จอดรถขณะที่ไม่มีผู้โดยสารอยู่ในรถ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหตุระเบิดครั้งนี้สร้างความวิตกถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดรถบัสในอดีต ซึ่งเคยเป็นรูปแบบการโจมตีหลักของกลุ่มต่อต้านชาวปาเลสไตน์ในช่วงทศวรรษ 2540
ด้านกองทัพอิสราเอลระบุว่ากำลังร่วมมือกับตำรวจและหน่วยข่าวกรองชินเบต (Shin Bet) ในการสืบสวน พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวัง ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งติดตามผู้ต้องสงสัย
ขณะที่ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดดังกล่าว เนทันยาฮูได้เรียกประชุมด่วนกับรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหาร หัวหน้าหน่วยข่าวกรองชินเบต และผู้บัญชาการตำรวจ โดยโฆษกตำรวจเปิดเผยว่า พบระเบิดแสวงเครื่องพร้อมนาฬิกาจับเวลา และได้ตรวจค้นระบบขนส่งสาธารณะเพื่อหาวัตถุระเบิดที่อาจหลงเหลือ
สื่อท้องถิ่นเผยแพร่ภาพรถบัสถูกไฟไหม้ภายในอู่จอดรถ พร้อมภาพรถที่ถูกเผาจนเสียหายทั้งคัน
ด้านกองทัพอิสราเอลประกาศเพิ่มปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายในเขตเวสต์แบงก์ และปิดกั้นจุดผ่านแดนบางพื้นที่ ทั้งนี้ กองทัพได้ปฏิบัติการทางทหารขนานใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าวตลอดเดือนที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเป็นการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธ ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์นับหมื่นต้องอพยพออกจากค่ายผู้ลี้ภัย และมีบ้านเรือนและสาธารณูปโภคได้รับความเสียหาย
เหตุระเบิดรถบัสครั้งนี้เกิดขึ้นแม้มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอล หลังการสู้รบยืดเยื้อนาน 16 เดือน โดยข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. แต่ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าละเมิดข้อตกลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 68)
Tags: อิสราเอล, เทลอาวีฟ, เบนจามิน เนทันยาฮู