ดาวโจนส์ปิดร่วง 450.94 จุด กังวลผลประกอบการวอลมาร์ท

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุดในวันพฤหัสบดี (20 ก.พ.) โดยตลาดถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากร และแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอของวอลมาร์ท (Walmart) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในโลก

  • ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,176.65 จุด ลดลง 450.94 จุด หรือ -1.01%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,117.52 จุด ลดลง 26.63 จุด หรือ -0.43% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,962.36 จุด ลดลง 93.89 จุด หรือ -0.47%

วอลมาร์ทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์กำไรในปี 2568 โดยคาดว่าบริษัทจะมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 2.50-2.60 ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.76 ดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์ของผู้บริโภคมีแนวโน้มอ่อนแอลง

โรเบิร์ต พาฟลิค ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนของบริษัท Dakota Wealth กล่าวว่า ผู้บริโภคมีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐฯ สูงถึง 70% ดังนั้นตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรที่อ่อนแอของวอลมาร์ทจึงทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคในอนาคต ซึ่งความกังวลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นวอลมาร์ท และแรงขายนี้ลามไปทั่วตลาด

นอกจากนี้ การคาดการณ์ผลกำไรที่อ่อนแอของวอลมาร์ทยังสะท้อนให้เห็นว่า ทางบริษัทมีมุมมองต่อแนวโน้มธุรกิจในวันข้างหน้าอย่างไรภายใต้มาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าหลายรายการ ซึ่งรวมถึงไม้แปรรูป รถยนต์ ยา และเซมิคอนดักเตอร์

หุ้นวอลมาร์ทร่วงลง 6.5% ขณะที่หุ้นบริษัทค้าปลีกรายอื่น ๆ ดิ่งลงด้วย โดยหุ้นทาร์เก็ต (Target) และหุ้นคอสต์โค โฮลเซล (Costco Wholesale) ร่วงลง 2.0% และ 2.6% ตามลำดับ

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มการเงินร่วงลง 1.55% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลง 1.10% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยดีดตัวขึ้น 0.97% ตามด้วยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้น 0.7%

หุ้นพาลันเทียร์ (Palantir) ซึ่งเป็นผู้จัดหาการบริการในด้านต่าง ๆ ให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ เช่นซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานในกองทัพ ร่วงลง 5.2% หลังจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศว่าทางกระทรวงกำลังพิจารณาการตัดงบประมาณสำหรับปีงบประมาณ 2569

หุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ทะยานขึ้น 8.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนต.ค.-ธ.ค. ซึ่งเป็นไตรมาส 3 ของปีงบการเงินบริษัท โดยได้แรงหนุนของการขยายตัวในธุรกิจคลาวด์และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 5,000 ราย สู่ระดับ 219,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 215,000 ราย

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ลดลง 26.2 จุด สู่ระดับ 18.1 ในเดือนก.พ. อย่างไรก็ดี ดัชนีมีค่าเป็นบวก ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกยังคงมีการขยายตัว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 68)

Tags: , , ,
Back to Top