มองมุมต่าง: เปิดข้อมูลหุ้นรายตัวที่ “ต่างชาติ” Net Buy 7 พันล้านบาท mtd (1-19 ก.พ.68)

จากข้อมูลมูลค่าการซื้อขายสุทธิสะสมตามกลุ่มนักลงทุน จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) นับตั้งแต่วันที่ 1-19 ก.พ. 68 (MTD) พบว่านักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ (Net buy) จำนวน 7,074.52 ล้านบาท

แต่รายละเอียดที่น่าสนใจกว่านั้นคือ หุ้นรายตัวใดที่นักลงทุนต่างชาติได้ทุ่มเงินสูงถึง 7 พันล้านบาทเข้ามาซื้อ การ Net Buy หุ้นรายตัว ของนักลงทุนต่างชาติ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ เปิดข้อมูลหุ้นรายตัว ที่ “ต่างชาติ” ซื้อสุทธิหุ้นไทย 7 พันล้านบาท ในเดือน ก.พ. 68

กลุ่มที่ซื้อหุ้นผ่าน Foreign Ownership คือ สัดส่วนการถือครองหุ้นสูงสุด ของต่างชาติในหุ้นรายตัวของไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะ เป็นเม็ดเงินลงทุนระยะกลาง-ระยะยาว หรือจะเรียกว่าเป็น “เงินเย็น” ก็ว่าได้ 20 อันดับ ดังนี้

1.หุ้น BH ซื้อสุทธิ 1,354.9 ล้านบาท
2.หุ้น KTB ซื้อสุทธิ 892.5 ล้านบาท
3.หุ้น MINT ซื้อสุทธิ 790.4 ล้านบาท
4.หุ้น DELTA ซื้อสุทธิ 772.7 ล้านบาท
5.หุ้น BBL ซื้อสุทธิ 667.0 ล้านบาท

ส่วนที่เหลือ ดูในตารางที่ 1

กลุ่มที่ซื้อหุ้นผ่าน NVDR ที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อคนซื้อ และส่วนใหญ่จะประเมินกันว่าเป็น “เงินร้อน” 20 อันดับ ดังนี้
1.หุ้น ADVANC ซื้อสุทธิ 4,996.5 ล้านบาท
2.หุ้น CPALL ซื้อสุทธิ 4,149.4 ล้านบาท
3.หุ้น AOT ซื้อสุทธิ 1,681.6 ล้านบาท
4.หุ้น SCB ซื้อสุทธิ 1,519.6 ล้านบาท
5.หุ้น DELTA ซื้อสุทธิ 1,458.3 ล้านบาท

ส่วนที่เหลือดูในตารางที่ 2

อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่านักลงทุนต่างชาติที่เข้ามา Net Buy MTD ของเดือน ก.พ.68 ทั้ง “เงินร้อน” และ “เงินเย็น” ส่วนใหญ่จะเน้นซื้อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ ภาคบริการ (รพ.-ท่องเที่ยว) และกลุ่มธนาคารเป็นหลัก

โดยสัดส่วน “เงินร้อน” จะเข้ากลุ่มธนาคารเยอะพอสมควร ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเข้ามาเก็งกำไรเงินปันผลจากกผล ประกอบการรอบปี 67 ซึ่งนักลงทุนอาจจะต้องระมัดระวังความผันผวนหลังจบ Dividend Season ของหุ้นกลุ่มธนาคารด้วย

 

ธิติ ภัทรยลรดี

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.พ. 68)

Tags: , , ,
Back to Top