หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานเมื่อวันพุธ (19 ก.พ.) ว่า สหรัฐฯ เตรียมปรับลดจำนวนเจ้าหน้าที่ในคณะทูตประจำจีนลงถึง 10% โดยนักการทูตของสหรัฐฯ และพนักงานท้องถิ่นในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงอาจได้รับแจ้งเตือนเร็วที่สุดในวันศุกร์นี้ (21 ก.พ.)
การปรับลดครั้งนี้จะส่งผลต่อสถานทูตในกรุงปักกิ่ง และสถานกงสุลในกวางโจว เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหยาง อู่ฮั่น รวมถึงสถานกงสุลในฮ่องกง ซึ่งสื่อท้องถิ่นระบุว่าเป็นการปรับลดที่ไม่เคยมีมาก่อน
แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งให้สถานทูตสหรัฐฯ ทั่วโลกเตรียมลดจำนวนบุคลากร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปฏิรูปหน่วยงานการทูตของสหรัฐฯ โดยปธน.ทรัมป์ และอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีพันธมิตรของเขา ต่างพยายามลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลที่พวกเขามองว่าสิ้นเปลือง นับตั้งแต่ปธน.ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค.
ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีบุคลากรทางการทูตจำนวนมากในจีน โดยเฉพาะที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 10 เอเคอร์ ประกอบด้วยอาคาร 6 หลัง รวมถึงอาคารใหม่ที่สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2559
ทั้งนี้ ข้อมูลบนเว็บไซต์ของสถานทูตและสถานกงสุลสหรัฐฯ ในจีน ระบุว่า สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงปักกิ่งมีเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันและพนักงานท้องถิ่นกว่า 1,300 คน ซึ่งเป็นตัวแทนของหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เกือบ 50 แห่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.พ. 68)
Tags: จีน, นักการทูต, สหรัฐ