
คิริล ดมิทริเยฟ หัวหน้ากองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซียคาดการณ์ในวันนี้ (19 ก.พ.) ว่า บริษัทสหรัฐฯ จำนวนมากจะกลับเข้าทำธุรกิจในรัสเซียอย่างเร็วที่สุดในไตรมาส 2 ของปี 2568 หลังจากที่มีการประชุมระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียเกี่ยวกับการยุติสงครามยูเครน ซึ่งถือเป็นการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของ 2 ประเทศนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้นในปี 2565
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในการเจรจากันนั้น รัสเซียได้กำหนดเงื่อนไขการเจรจา โดยเรียกร้องให้นาโต (NATO) ยกเลิกคำมั่นสัญญาที่จะให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกในอนาคต และปฏิเสธแนวคิดที่ว่า สมาชิกนาโตอาจส่งกองกำลังเข้าไปเพื่อรักษาสันติภาพในยูเครน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ซึ่งเคยกล่าวหลายครั้งว่าเขาจะยุติสงครามในยูเครนนั้นระบุว่า เขาอาจพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ภายในเดือนนี้ และยังปฏิเสธข้อกังวลของยูเครนเกี่ยวกับการที่ยูเครนไม่ได้เข้าร่วมการเจรจาในซาอุดีอาระเบีย
เนื่องจากสหรัฐฯ และรัสเซียกลับมาเจรจากันอีกครั้งหลังจากเผชิญวิกฤติด้านความสัมพันธ์ครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบาในปี 2505 ทำให้บางฝ่ายในรัสเซียหวังว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจจะกลับคืนมา
ดมิทริเยฟ หัวหน้ากองทุนเพื่อการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย (Russian Direct Investment Fund – RDIF) กล่าวกับสำนักข่าว TASS ว่า “คาดว่าบริษัทสหรัฐฯ จำนวนมากจะกลับเข้าสู่ตลาดรัสเซียในไตรมาส 2 ของปี 2568”
“แต่กระบวนการกลับมาของบริษัทอเมริกันจะไม่ง่าย เนื่องจากธุรกิจจำนวนมากได้ถูกจับจองไปแล้ว” ดมิทริเยฟกล่าว
หลังจากที่ชาติตะวันตกบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุด รัฐบาลรัสเซียได้ปรับตัวเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดต่าง ๆ และผู้ผลิตภายในประเทศก็สามารถเข้ามาครองส่วนแบ่งตลาดที่เคยเป็นของบริษัทต่างชาติรายใหญ่ได้
การประชุมที่กรุงริยาดได้ส่งผลให้ สหรัฐฯ และรัสเซียตกลงกันที่จะจัดตั้งทีมเจรจาเพื่อประชุมเพิ่มเติมในอนาคต และทำงานร่วมกันเพื่อฟื้นฟูการทำงานของสถานทูตของแต่ละฝ่ายให้กลับสู่ภาวะปกติ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.พ. 68)
Tags: คิริล ดมิทริเยฟ, รัสเซีย, สหรัฐ