ปลัดคลัง คาดได้ข้อสรุป ThaiESG รูปแบบใหม่รองรับเม็ดเงิน LTF ก่อนสิ้นไตรมาส 1/68

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการในการจัดตั้งกองทุน Thai ESG กองที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 1 ปีนี้ โดยวงเงินจะอยู่ที่ราว 180,000 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนเงินในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ครบกำหนดอายุไปแล้ว

“หน่วยงานที่รับผิดชอบ กำลังเร่งพิจารณา และออกแบบรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งสิทธิประโยชน์ทางภาษี รูปแบบการลงทุน เบื้องต้นอยากให้เป็นการลงทุนในประเทศเป็นหลัก และรูปแบบการลงทุนก็อาจจะแตกต่างกับ Thai ESG กองแรกเลยก็ได้ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินเดือน มี.ค.นี้ หรือไตรมาส 1/68” ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ

นายลวรณ กล่าวว่า กองทุน Thai ESG กองที่ 2 โจทย์สำคัญยังเป็นเรื่องการส่งเสริมการออมระยะยาวของประชาชนเช่นเดิม แต่การจัดตั้งเป้าหมายหลักเพื่อรองรับหน่วยลงทุนจาก LTF ที่หมดอายุลง และยังไม่ได้มีการขายออกไป วงเงินราว 1.8 แสนล้านบาทเท่านั้น ไม่ได้เปิดจำหน่ายให้กับนักลงทุนทั่วไป แต่จะรองรับเฉพาะนักลงทุนที่เคยถือกองทุน LTF เดิมอยู่แล้วเท่านั้น

“คลังกำลังคิดมาตรการเพื่อมารองรับการเปลี่ยนจาก LTF มาเป็น Thai ESG เพราะเราไม่อยากเห็นการเทขายในช่วงนี้ เนื่องจากราคาหุ้นก็ไม่ดีอยู่แล้ว หากมีการขายออกมาอีก ก็จะเป็นการซ้ำเติมตลาดอีกแบบหนึ่ง ส่วนข้อมูล พบว่ามีหน่วยลงทุน LTF ที่ครบกำหนดขายได้ทั้งสิ้น 2.4 แสนล้านบาท และมีการทยอยขายออกไปบ้างแล้ว ตอนนี้ยังเหลือวงเงินอีกราว 1.8 แสนล้านบาทที่ยังไม่ได้มีการขายออกมา ส่วนหนึ่งเพราะยังขาดทุนอยู่ราว 5-10% ดังนั้น คลังจึงเร่งดำเนินการเรื่อง Thai ESG กองที่ 2 เพื่อรองรับ” นายลวรณ กล่าว

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า สิทธิประโยชน์ในกองทุน Thai ESG อาจจะไม่จูงใจนักลงทุนได้เท่ากับ LTF นั้น ปลัดกระทรวงการคลัง มองว่าอยากให้พิจารณาจากข้อมูลและข้อเท็จจริงเป็นหลัก โดยยอดการซื้อ LTF ในแต่ละปีจะอยู่ที่ราว 25,000-30,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดการซื้อกองทุน Thai ESG อยู่ที่ราว 27,000 ล้านบาท ถือว่าใกล้เคียงกัน

“ต้องยอมรับว่ากองทุน Thai ESG สามารถแทนกองทุน LTF ได้ ดังนั้นการที่จะบอกว่า Thai ESG ไม่จูงใจ ก็คงจะไม่ได้” ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.พ. 68)

Tags: , , ,
Back to Top