
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยในวันอังคาร (18 ก.พ.) ว่า ต่างชาติถือครองพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐฯ ลดลงในเดือนธ.ค. 2567 เนื่องจากญี่ปุ่นและจีนซึ่งเป็น 2 ประเทศที่ถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุดนั้น ได้ปรับลดการถือพันธบัตรสหรัฐฯ ในพอร์ตการลงทุนของประเทศ
ทั้งนี้ ยอดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยต่างชาติปรับตัวลงสู่ระดับ 8.513 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. จากระดับ 8.633 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. หลังจากที่เคยถือครองเป็นมูลค่าสูงถึง 8.679 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.
ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับ 1.060 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. จากระดับ 1.087 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. โดยญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่ถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุด ส่วนจีนซึ่งเป็นประเทศที่ถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ รายใหญ่อันดับ 2 นั้น ได้ปรับลดการถือครองพันธบัตรลงสู่ระดับ 7.59 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. จากระดับ 7.686 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งขึ้นในเดือนธ.ค. โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นและความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อจะกลับมาสูงขึ้นอีก ขณะที่เทรดเดอร์พยายามประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.พ. 68)
Tags: กระทรวงการคลังสหรัฐ, การลงทุน, จีน, ญี่ปุ่น, พันธบัตรสหรัฐ, สหรัฐ