
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร (18 ก.พ.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
- ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,556.34 จุด เพิ่มขึ้น 10.26 จุด หรือ +0.02%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,129.58 จุด เพิ่มขึ้น 14.95 จุด หรือ +0.24% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,041.26 จุด เพิ่มขึ้น 14.49 จุด หรือ +0.07%
ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปรับตัวผันผวนตลอดทั้งวัน ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวกในช่วงท้าย โดยดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายค่อนข้างซบเซาในวันอังคาร หลังจากตลาดปิดทำการในวันจันทร์ที่ 17 ก.พ.เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐฯ
คณะกรรมการเฟดมีกำหนดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ม.ค.ในวันนี้ (19 ก.พ.) ตามเวลาสหรัฐฯ ซึ่งนักลงทุนจับตารายงานดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในการประชุมวันดังกล่าวนั้น คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ
ส่วนการแสดงความเห็นล่าของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย รวมทั้งมิเชล โบว์แมน และคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด ต่างก็มองว่าการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงนั้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เฟดควรจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ขณะที่แมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกย้ำว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าเฟดจะเห็นว่าเงินเฟ้อมีความคืบหน้าในการเคลื่อนตัวสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1.37% ตามด้วยหุ้นกลุ่มวัสดุพุ่งขึ้น 1.23% ส่วนหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารปรับตัวลงมากที่สุด โดยร่วงลง 1.26%
หุ้นอินเทล (Intel) ทะยานขึ้น 16.1% หลังจากสื่อรายงานว่าบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง คอมพานี (TSMC) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก กำลังพิจารณาเข้าถือหุ้นในโรงงานต่าง ๆ ของอินเทล ตามคำร้องขอของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ
ฤดูการรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2567 ของบริษัทจดทะเบียนกำลังจะจบลง โดยข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า นับจนถึงวันศุกร์ที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา มีบริษัทในดัชนี S&P500 รายงานผลประกอบการแล้วจำนวน 383 แห่ง โดยในจำนวนนี้มี 74% ที่รายงานผลประกอบการสูงกว่าคาด
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผลประกอบการของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P500 จะเพิ่มขึ้น 15.3% ในไตรมาส 4/2567 เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นจากระดับ 9.6% ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 5 จุด สู่ระดับ 42 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2567 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 46 โดยดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างในระดับสูง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.พ. 68)
Tags: dowjones, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก