“สถานบันเทิงครบวงจร” เดินหน้าต่อหรือไม่ขึ้นกับรัฐบาล-ตั้งเงื่อนไขคุมเข้าออก ป้องกันมอมเมา

ความคืบหน้าการจัดทำร่างพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า ขณะนี้การพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ในวาระที่ 2 และได้นำไปรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนโดยทั่วไปแล้วจะนำมาประกอบการพิจารณาในวาระที่ 2 ต่อไป พร้อมยอมรับว่า ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกากำลังเร่งจัดทำร่างกฎหมายดังกล่าว และจะดำเนินการได้ทันภายในกรอบ 50 วันที่ได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้

โดยการจัดทำร่างขณะนี้ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นเจ้าของร่าง และอำนาจซุปเปอร์บอร์ดยังคงหลักการเดิม แต่จะมีการใส่รายละเอียดใหม่ ในกระบวนการต่าง ๆ เช่น ใบอนุญาตต้องดำเนินการอย่างไร จะต้องมีแผนการลงทุนต่าง ๆ

ในส่วนที่มีข้อเสนอให้คนไทยมีเงิน 50 ล้านบาท จึงจะสามารถเข้าใช้บริการได้นั้น นายปกรณ์ ยอมรับว่า เป็นแนวคิดเบื้องต้น ซึ่งประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ เป็นตัวเลขเบื้องต้นเท่านั้น และยอมรับว่าไม่อยากให้ประชาชนไปหมกมุ่นอยู่กับเรื่องแบบนี้ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่ได้เอาเรื่องการพนันเป็นหลัก แต่เน้นแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นเป็นหลัก ซึ่งส่วนตัวคิดว่าถ้าใส่เรื่องนี้แน่น ๆ ก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้คนไทยเล่นการพนันซึ่งเป็นสิ่งมอมเมาต่าง ๆ เหล่านี้ได้

นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ตามหลักการแล้วจะมีอยู่ 2 เรื่อง ที่คล้ายกันอยู่ คือรับฟังความคิดเห็น กับเรื่องประชามติ โดยการรับฟังความคิดเห็น จะนำไปประกอบการพิจารณาของฝ่ายนโยบาย เมื่อรับฟังความคิดเห็นแล้ว จะดำเนินการต่อไปอย่างไร แตกต่างจากประชามติ โดยประชามติจะเป็นไปในลักษณะที่ว่า ถ้ามีความคิดเห็นอย่างไรก็ตกลงตามนั้น ดังนั้น ต้องแยกกันให้ออก อย่านำไปปนกัน เพราะขณะนี้สังคมได้นำไปปนกันหมดแล้ว ทั้งเรื่องรับฟังความคิดเห็น และเรื่องประชามติ ซึ่งเป็นเรื่องที่แตกต่างกัน โดยขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าว อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยและรัฐบาลยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการต่อก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล และรัฐสภาที่จะพิจารณาตามรายละเอียดว่าจะแก้ไขตามที่เห็นสมควรอย่างไร

ขณะที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีเสียงคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์และกาสิโนว่า ความคิดเห็นของประชาชนมีความสำคัญต่อรัฐบาลอย่างแน่นอน และข้อเรียกร้องจากประชาชนถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะฉะนั้น รัฐบาลพร้อมที่จะเปิดรับ และพูดคุยกับทุกฝ่ายที่มีข้อเสนอแนะอย่างแน่นอน ทั้งยังจะมีการจัดทำ workshop ในพื้นที่ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลมองไว้อยู่แล้ว เพื่อทำให้ประชาชนเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าเมื่อโครงการเกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว จะเกิดผลดีเป็นอย่างไรบ้าง

“แน่นอนว่า การเปลี่ยนแปลงหลายครั้งก็ต้องมีการปรับตัวและมีความเข้าใจ ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลเองที่จะต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่าเป้าหมายที่มองคืออะไร และประเทศชาติจะได้ประโยชน์อย่างไร”

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.พ. 68)

Tags: , , ,
Back to Top