ธนาคารในสิงคโปร์รุกมาตรการสกัดมิจฉาชีพ ขอให้ผู้ใช้โมบายล์วอลเล็ตยืนยันตัวตนเพิ่ม

สมาคมธนาคารในสิงคโปร์ (ABS) เปิดเผยว่า ธนาคารที่ออกบัตรชำระเงินได้ปรับมาตรการเฝ้าระวังการฉ้อโกงให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น หลังพบมิจฉาชีพใช้กลอุบายหลอกเงินเหยื่อผ่านกระเป๋าสตางค์บนมือถือ หรือโมบายล์วอลเล็ตเพิ่มมากขึ้น

ABS ระบุว่า สมาคมพบการหลอกลวงแบบฟิชชิง (phishing) เพิ่มขึ้นผ่านการเปิดใช้บัตรเดบิตและบัตรเครดิตบนโมบายล์วอลเล็ตสำหรับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) และแอนดรอยด์ (Android) ซึ่งให้บริการโดยแอปเปิ้ล เพย์ (Apple Pay) กูเกิล เพย์ (Google Pay) และซัมซุง เพย์ (Samsung Pay)

“ธนาคารที่ออกบัตรรายใหญ่ได้ปรับมาตรการเฝ้าระวังการฉ้อโกง และสามารถป้องกันการสูญเสียเงินเป็นมูลค่า 53.9 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 4 ปี 2567” สมาคมระบุในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 17 ก.พ. พร้อมเสริมว่าธนาคารต่าง ๆ จะยังคงเดินหน้าปรับปรุงมาตรการของตนเองต่อไป

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดอะ สเตรต ไทมส์ ของสิงคโปร์รายงานว่า ภายในเดือนก.ค. 2568 ธนาคารจะขอให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตนเพิ่มเติม เช่น การควบคุมในแอป หรือการใช้ดิจิทัลโทเคนยืนยันตัวตน เพื่อเปิดใช้บัตรเดบิตและบัตรเครดิตบนโมบายล์วอลเล็ต นอกจากนี้ ธนาคารจะดำเนินการเชิงรุกด้วยการลบบัตรบนวอลเล็ต หากตรวจพบการกระทำที่เข้าข่ายการฉ้อโกง

ทางการสิงคโปร์รายงานวานนี้ว่า มิจฉาชีพสามารถควบคุมบัตรเครดิตของเหยื่อด้วยการหลอกลวงแบบฟิชชิง จากนั้นจึงใช้บัตรของเหยื่อชำระเงินผ่านมือถืออย่างผิดกฎหมาย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายอย่างน้อย 1.2 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 โดยทางการได้รับรายงานการหลอกลวงอย่างน้อย 656 ราย ซึ่ง 502 รายในจำนวนนี้เป็นการหลอกลวงผ่านบัตรที่เชื่อมโยงกับแอปเปิ้ล เพย์

ABS ระบุว่า ในการหลอกลวงลักษณะดังกล่าวนั้น มิจฉาชีพจะหลอกให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลบัตรบนเว็บไซต์ที่ปลอมขึ้นมา รวมไปถึงการหลอกให้กรอกรหัสผ่าน SMS แบบใช้ครั้งเดียวเพื่อยืนยันการเปิดใช้บัตรบนโมบายล์วอลเล็ตบนมือถือของมิจฉาชีพ เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น มิจฉาชีพจึงสามารถใช้วอลเล็ตซื้อสินค้าหรือทำธุรกรรมโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.พ. 68)

Tags: , ,
Back to Top