“วอลเลอร์” มั่นใจมาตรการภาษีทรัมป์หนุนเงินเฟ้อชั่วคราว-ไม่กระทบนโยบายเฟด

คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่า มุมมองพื้นฐานของเขาคือ มาตรการภาษีศุลกากรครั้งใหม่ของคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเฟดควรจะมองข้ามเรื่องนี้ในการกำหนดนโยบายการเงิน

วอลเลอร์กล่าวว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายการค้าหรือนโยบายอื่น ๆ ของรัฐบาล ไม่ควรขัดขวางการดำเนินนโยบายของเฟดหากการดำเนินการนั้นมีความเหมาะสม เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่เกิดเหตุการณ์รัสเซียบุกยูเครนในปี 2565 และการล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ในปี 2566 ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้ขัดขวางการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของเฟด แม้ว่าทั้งสองเหตุการณ์จะสร้างความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจก็ตาม

“มุมมองพื้นฐานของผมคือ มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยและไม่ยั่งยืน ดังนั้นผมจึงสนับสนุนให้เฟดมองข้ามผลกระทบเหล่านี้เมื่อมีการกำหนดนโยบายการเงิน ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะสามารถทำได้” วอลเลอร์กล่าวในการประชุมที่มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย และเสริมว่า “ผมยอมรับว่าผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรอาจจะมากกว่าที่ผมคาดการณ์ แต่เราต้องจำไว้ด้วยว่านโยบายอื่น ๆ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณานั้น อาจจะส่งผลในเชิงบวกต่ออุปทานและทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อชะลอตัวลง”

นอกจากนี้ วอลเลอร์กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้เป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ย แต่หากเงินเฟ้อมีการเคลื่อนไหวเหมือนในปี 2567 คณะกรรมการเฟดก็สามารถกลับมาดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้อีกในปีนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การประชุมเฟดครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 18-19 มี.ค. โดยตลาดคาดการณ์ว่าคณะกรรมการเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25%-4.5%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.พ. 68)

Tags: , , , , , ,
Back to Top