Decrypto: ทำความรู้จัก ร่าง พ.ร.บ. PRTR (พ.ร.บ. การรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม)

*ทำความรู้จัก ร่าง พ.ร.บ. PRTR (พ.ร.บ. การรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม)

ระบบการรายงานการปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม หรือ PRTR (Pollutant Release and Transfer Register) เป็นระบบที่จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมและเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษจากแหล่งกำเนิดประเภทต่าง ๆ ได้แก่ แหล่งกำเนิดที่รู้จุดปล่อยแน่นอน (Point Source) เช่น โรงงานอุตสาหกรรม และแหล่งกำเนิดที่ไม่มีจุดปล่อยที่แน่นอน (Non-Point Source) เช่น การเกษตรกรรม การขนส่ง อุตสาหกรรมขนาดกลางและเล็ก และกิจกรรมของชุมชนสู่สิ่งแวดล้อม ทั้งทางอากาศ น้ำ ดิน รวมทั้งข้อมูลการเคลื่อนย้ายของเสียและน้ำเสียจากโรงงาน หรือสถานประกอบการเพื่อบำบัด/กำจัด

แนวคิดนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา หลังจากเกิดเหตุระเบิดโรงงานยูเนี่ยนคาร์ไบด์ ในเมืองโบพาล ประเทศอินเดีย เมื่อปี พ.ศ.2527 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลายประเทศตระหนักถึงความสำคัญของการมีระบบที่โปร่งใสในการรายงานการใช้และปล่อยสารเคมีอันตราย

ปัจจุบัน มีมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกที่นำระบบ PRTR มาใช้ในการจัดการมลพิษและคุ้มครองสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม ประเทศเหล่านี้รวมถึงสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ สำหรับประเทศไทย การผลักดันร่างพระราชบัญญัติการรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม (PRTR) มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการสิ่งแวดล้อม

*ร่าง พ.ร.บ. PRTR

PRTR หรือร่างพระราชบัญญัติการรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายหลักในการสร้างฐานข้อมูลที่โปร่งใส จัดทำระบบฐานข้อมูลที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับชนิดและปริมาณของสารมลพิษที่ปล่อยจากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ ส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อม ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันเพื่อสนับสนุนการวางแผนและดำเนินการในการป้องกันและลดมลพิษ สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน กระตุ้นให้อุตสาหกรรมปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดการปล่อยสารมลพิษและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการกำกับดูแลของภาครัฐ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถติดตามและประเมินสถานการณ์มลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้สถานประกอบการที่มีการใช้หรือปล่อยสารมลพิษที่กำหนด ต้องรายงานข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณและชนิดของสารมลพิษที่ปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม รวมถึงการเคลื่อนย้ายของเสียที่มีสารมลพิษ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกรวบรวมและเผยแพร่ในระบบฐานข้อมูลกลางที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ เพื่อส่งเสริมความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของสังคม

*ขั้นตอนการจัดทำรายงานภายใต้ พ.ร.บ. PRTR

ขั้นตอนการจัดทำรายงานภายใต้ พ.ร.บ. PRTR ประกอบด้วยขั้นตอนหลักต่าง ๆ ดังนี้

การเก็บรวบรวมข้อมูล: สถานประกอบการที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมายต้องจัดทำรายงานเกี่ยวกับการปล่อยสารมลพิษและการเคลื่อนย้ายของเสียที่มีสารมลพิษ

การส่งรายงาน: ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจะต้องถูกส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ

การตรวจสอบและเผยแพร่ข้อมูล: หน่วยงานของรัฐจะตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และเผยแพร่ให้สาธารณชนเข้าถึงผ่านระบบฐานข้อมูลออนไลน์ เพื่อส่งเสริมความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของประชาชน

*ประโยชน์และความท้าทายของการใช้ระบบ PRTR

การนำระบบ PRTR มาใช้มีประโยชน์หลายประการ ทั้งด้านการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน โดยประชาชนและชุมชนสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับมลพิษในพื้นที่ของตนได้ ทำให้สามารถประเมินความเสี่ยงและตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมได้ สนับสนุนการตัดสินใจของผู้กำหนดนโยบาย

ข้อมูลจาก PRTR ช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายสามารถพัฒนามาตรการควบคุมมลพิษที่มีประสิทธิภาพและตรงจุด กระตุ้นการปรับปรุงของภาคอุตสาหกรรม การเปิดเผยข้อมูลการปล่อยสารมลพิษกระตุ้นให้อุตสาหกรรมปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดการปล่อยของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร รวมไปถึงเพิ่มความสามารถในการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล

การมีระบบ PRTR ช่วยให้ประเทศไทยสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีสากล อย่างไรก็ตาม การนำระบบ PRTR มาใช้ยังคงต้องเผชิญต่อความท้าทายมากมาย เช่น ความพร้อมของสถานประกอบการ บางสถานประกอบการ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง อาจขาดทรัพยากรหรือความรู้ในการเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูลการปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ การสนับสนุนและการฝึกอบรมจากภาครัฐจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้การปฏิบัติตามกฎหมายเป็นไปอย่างราบรื่น

การบังคับใช้กฎหมาย PRTR อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคม การกำหนดบทลงโทษที่เหมาะสมและการตรวจสอบที่เข้มงวดจะช่วยป้องกันการละเมิดกฎหมาย การสร้างระบบฐานข้อมูลที่โปร่งใสและเข้าถึงได้ง่าย การพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ข้อมูลในการตัดสินใจและมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษ และการป้องกันผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อย ควรมีการพิจารณาและกำหนดมาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้กฎหมาย PRTR เป็นภาระที่เกินความจำเป็นต่อผู้ประกอบการรายย่อย เช่น การให้การสนับสนุนทางเทคนิคหรือการยกเว้นบางกรณี

*สถานะปัจจุบันของร่าง พ.ร.บ. PRTR ในประเทศไทย

สำหรับประเทศไทย การผลักดันร่าง พ.ร.บ. PRTR ได้รับความสนใจจากหลายภาคส่วน มีการเสนอร่างกฎหมายนี้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตาม ยังคงอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาโดยฝ่ายนิติบัญญัติและยังไม่มีการบังคับใช้เป็นกฎหมาย

ทั้งนี้ องค์กรสิ่งแวดล้อมหลายแห่ง เช่น มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) และกรีนพีซ ประเทศไทย ได้เรียกร้องให้รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรเร่งนำร่างกฎหมาย PRTR เข้าสู่การพิจารณาและบังคับใช้ เพื่อเสริมสร้างความโปร่งใสในการจัดการมลพิษและคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูล

ร่าง พ.ร.บ. PRTR เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบติดตามและจัดการมลพิษในประเทศไทย การมีระบบรายงานที่โปร่งใสและเป็นมาตรฐานสามารถช่วยให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนร่วมมือกันเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การดำเนินการต้องมีความรอบคอบและคำนึงถึงความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้กฎหมายนี้สามารถนำไปใช้ได้จริงและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การสนับสนุนและการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันร่าง พ.ร.บ. PRTR ให้เป็นกฎหมายที่มีประสิทธิภาพและเป็นเครื่องมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษในประเทศไทย

ดุษดี ดุษฎีพาณิชย์

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายการค้า การลงทุน และอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.พ. 68)

Tags: , , , ,
Back to Top