CONSENSUS: KTB ปี 68 สดใส สินเชื่อโตตามโครงการรัฐ NPL ขาลงไม่พะวงตั้งสำรองฯ

โบรกเกอร์เชียร์ “ซื้อ” หุ้นธนาคารกรุงไทย [KTB] มองปี 68 ยังโดดเด่นต่อเนื่องจากปีก่อนรับอานิสงส์จากโครงการลงทุนภาครัฐเร่งตัวช่วยหนุนสินเชื่อเติบโต ประกอบกับ ทิศทางของดอกเบี้ยยังทรงตัวดัน NIM ดีต่อเนื่อง สวนทางทิศทาง NPL แนวโน้มลดลงส่งผลบวกต่อการตั้งสำรองฯลดลงตามไปด้วย และ Credit Cost ย่อตัวหนุนภาพรวมผลการดำเนินงานของ KTB

ขณะที่ Valuation ยังค่อนข้างถูก และให้ผลตอบแทนเงินปันผลในระดับสูง

ช่วงบ่ายราคาหุ้น KTB เคลื่อนไหวอยู่ที่ 23.20 บาท บวก 0.40 บาท (+1.75%)

นายกรกช เสวตร์ครุตมัต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย มอง KTB ยังมีความโดดเด่น โดยเฉพาะแนวโน้มของผลการดำเนินงานในปี 68 ดีต่อเนื่อง จากปัจจัยหนุนหลักของ Credit cost และแนวโน้ม NPL ที่ค่อยๆ ปรับตัวลดลง จากการบริหารจัดการควบคุมคุณภาพของพอร์ตได้อย่างดี ทำให้ไม่ต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากในส่วนของสินเชื่อที่ยังเห็นความโดดเด่นในส่วนของสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการภาครัฐที่มีการเบิกจ่ายออกมาต่อเนื่อง และการลงทุนของภาคเอกชนที่มีออกมาต่อเนื่อง อีกทั้งทิศทางดอกเบี้ยทรงตัวทำให้ยังได้อานิสงส์จากส่วนต่างดอกเบี้ยที่ดีต่อเนื่อง โดย NIM ยังอยู่ในระดับสูง อีกทั้งในแง่ของ Valuation ที่ยังค่อนข้างถูก และผลตอบแทนเงินปันผลในระดับที่ดีกว่า 5%

นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาด KTB ยังคงได้รับประโยชน์จากการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ทำให้สินเชื่อเกี่ยวข้องกับงานโครงการภาครัฐ และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตสินเชื่อในปี 68 ประกอบกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ยังมีแนวโน้มทรงตัว ทำให้ NIM ยังคงอยู่ในระดับสูงหนุนรายได้และดอกเบี้ย และเป็นปัจจัยที่หนุนต่อภาพรวมของผลการดำเนินงานในปี 68 ซึ่งคาดว่ากำไรในปี 68 จะยังเติบโตได้ราว 3.2%

ขณะที่แนวโน้มของ NPL คาดว่าจะยังเห็นการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Credit Cost ของธนาคารลดลง หนุนต่อกำไรของ KTB ในปีนี้ด้วยเช่นกัน ประกอบกับความน่าสนใจของ KTB ยังอยู่ที่ Valuation ที่ค่อนข้างถูก โดยที่มี P/BV 0.7 เท่าทำให้ยังมีความน่าสนใจ และยังได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับที่ดีราว 4%

ด้านนักวิเคราะห์บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มอง KTB ยังมีความโดดเด่นอย่างต่อเนื่องจากปี 67 ในด้านของผลการดำเนินงาน ซึ่งประเมินกำไรปี 68 จะเติบโตได้ราว 7% โดยที่ยังคงมีปัจจัยหนุนหลักจากการที่แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยยังคงทรงตัวอยู่ ทำให้ NIM ยังไม่มีการปรับตัวลดลง ประกอบกับยังคงมีแรงหนุนจากสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการภาครัฐที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโต

ขณะที่คุณภาพของพอร์ตสินเชื่อมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากการบริหารจัดการของ KTB ทำให้ NPL มีการชะลอตัว และส่งผลให้การตั้งสำรองฯของ KTB ลดลงตาม ซึ่งเป็นปัจจัยที่หนุนภาพรวมของผลการดำเนินงาน และคาดว่าในไตรมาส 1/68 ยังจะเห็นการตั้งสำรองฯที่ลดลง อีกทั้งหากมองในด้าน Valuation ยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างถูก ทำให้มีความน่าสนใจ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.พ. 68)

Tags: , , , ,
Back to Top