ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวในวันพฤหัสบดี (13 ก.พ.) ว่า สหรัฐฯ เตรียมเพิ่มการส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ให้อินเดียในปีนี้ พร้อมเดินหน้าเจรจาเพื่อสร้างดุลการค้าที่เป็นธรรมมากขึ้นระหว่างสองประเทศ
นอกจากนี้ ทรัมป์แถลงข่าวร่วมกับนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย หลังการหารือที่ทำเนียบขาว โดยย้ำว่าความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐฯ อินเดีย ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น หรือกลุ่ม Quad มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสันติภาพและความมั่งคั่งในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
ทรัมป์กล่าวว่า “สายสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และอินเดียนั้นพิเศษจริง ๆ” พร้อมระบุว่าการขยายมูลค่าการขายอาวุธ “เพิ่มขึ้นหลายล้านดอลลาร์” จะเป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่การอนุมัติขายเครื่องบินรบ F-35 ให้อินเดียในอนาคต
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผู้นำสหรัฐฯ ยังเผยว่า ทั้งสองประเทศจะกระชับความร่วมมือในด้านอื่น ๆ ด้วย ทั้งปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีนิวเคลียร์ และพลังงาน หลังจากที่เพิ่งประกาศแผนเก็บภาษีตอบโต้ในอัตราเท่ากับที่ประเทศคู่ค้าเรียกเก็บจากสหรัฐฯ
แหล่งข่าวระดับสูงในทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าจะบรรลุข้อตกลงเพื่อลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับอินเดียให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยในระหว่างการแถลงข่าว ทรัมป์ได้แสดงความไม่พอใจที่อินเดียเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ในอัตราที่ค่อนข้างสูงด้วย
เพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลที่เรื้อรัง ทรัมป์เผยว่าได้ตกลงกับโมดีให้สหรัฐฯ เป็นผู้จัดส่งน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ให้อินเดีย
ทั้งนี้ โมดีถือเป็นผู้นำเอเชียคนที่สอง ต่อจากนายชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่ได้พบปะทรัมป์แบบตัวต่อตัว หลังจากที่ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองแบบไม่ต่อเนื่องเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 68)
Tags: การค้า, การส่งออก, สหรัฐ, อาวุธยุทโธปกรณ์, อินเดีย