โยชิมาสะ ฮายาชิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (14 ก.พ.) ว่า ญี่ปุ่นได้ติดต่อไปยังสหรัฐฯ เพื่อขอเจรจาเกี่ยวกับแผนเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และญี่ปุ่นจะใช้มาตรการที่เหมาะสมในการรับมือ หลังจากตรวจสอบผลกระทบของมาตรการดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ฮายาชิไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดต่อรกับสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าญี่ปุ่นได้ร้องขอการยกเว้นภาษีดังกล่าวหรือไม่
ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในบันทึกของประธานาธิบดี (presidential memorandum) ในวันพฤหัสบดี (13 ก.พ.) โดยระบุแผนการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ภายใต้แผนนี้ สหรัฐฯ จะถือว่านโยบายที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร (non-tariff policies) ของประเทศอื่น ๆ นั้น เข้าข่ายการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมด้วยเช่นกัน ซึ่งสมควรถูกตอบโต้ด้วยภาษีศุลกากร โดยนโยบายที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากรเหล่านั้นรวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT และการปฏิบัติอื่น ๆ ที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการใช้ข้อจำกัดทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะมอบหมายให้ โฮเวิร์ด ลุตนิก ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้นำในการศึกษาประเด็นต่าง ๆ เพื่อกำหนดระดับภาษีศุลกากรที่เหมาะสมสำหรับแต่ละประเทศที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ลูตนิกคาดการณ์ว่าการศึกษาเหล่านี้จะแล้วเสร็จภายในวันที่ 1 เม.ย. เพื่อให้ปธน.ทรัมป์สามารถตัดสินใจที่จะดำเนินการมาตรการดังกล่าวในวันที่ 2 เม.ย. ขณะ
ทั้งนี้ ฮายาชิกล่าวในการแถลงข่าวว่า “เราได้เริ่มติดต่อสื่อสารกับสหรัฐฯ ภายหลังการประกาศดังกล่าว เราจะดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดของภาษีศุลกากรตอบโต้โดยละเอียด และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับญี่ปุ่น และจะตอบสนองอย่างเหมาะสม”
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สหรัฐฯ เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งส่งออกผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท เช่น รถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ จำนวน 8.64 ล้านล้านเยน (5.7 หมื่นล้านดอลลาร์) เมื่อปีที่แล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 68)
Tags: ญี่ปุ่น, ภาษีศุลกากร, สหรัฐ, โยชิมาสะ ฮายาชิ