ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ (14 ก.พ.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในแผนการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) แต่มาตรการดังกล่าวยังไม่มีผลบังใช้ในทันที
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,287.30 จุด ลดลง 174.17 จุด หรือ -0.44% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 22,303.80 จุด เพิ่มขึ้น 489.43 จุด หรือ +2.24% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,340.95 จุด เพิ่มขึ้น 8.47 จุด หรือ +0.25%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดบวก 0.59% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.37%
ปธน.ทรัมป์ประกาศแผนการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ทันที โดยปธน.ทรัมป์กล่าวว่า โฮเวิร์ด ลุตนิก ผู้ที่เขาเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นผู้นำในการศึกษาประเด็นต่าง ๆ เพื่อกำหนดระดับภาษีศุลกากรที่เหมาะสมสำหรับแต่ละประเทศที่ได้รับผลกระทบ
ลุตนิกกล่าวในระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่า เขาคาดว่าการศึกษาเหล่านี้จะแล้วเสร็จภายในวันที่ 1 เม.ย. เพื่อให้ปธน.ทรัมป์สามารถตัดสินใจที่จะดำเนินการมาตรการดังกล่าวในวันที่ 2 เม.ย. ขณะเดียวกันลุตนิกกล่าวว่า ในระหว่างนี้บรรดาประเทศคู่ค้าอาจจะตัดสินใจปรับลดภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า แนวทางของรัฐบาลจะเริ่มจากการตรวจสอบประเทศที่มียอดเกินดุลการค้าสหรัฐฯ มากที่สุด หรือมีปัญหาร้ายแรงที่สุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 68)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย