![](https://www.infoquest.co.th/wp-content/uploads/2024/05/20240530_IQN_เฉลียว-วิทูรปกรณ์_EPG.jpg)
นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป [EPG] เปิดเผยว่า ไตรมาส 3 ปีบัญชี 67/68 (ต.ค.-ธ.ค.67) บริษัทมียอดขาย 3,388 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 3,374 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 0.4% และ ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนที่มียอดขาย 3,606 ล้านบาท หรือ ลดลง 6.0% มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30.7% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 30 – 33% และมีกำไรสุทธิที่ 168 ล้านบาท ลดลง 45.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 23.8% จากไตรมาสก่อน
เนื่องจากบริษัทมีการตั้งสำรองผลขาดทุนทางเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่ 58 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าลดลง 58.8% เนื่องจากยอดขายชะลอตัวและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ทั้งธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น และธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์
– ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มียอดขาย 983 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ ลดลง 6.0% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากช่วงปลายปีเป็นเทศกาลที่มีวันหยุดยาว ส่วนยอดขายในสหรัฐอเมริกายังคงเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความต้องการสินค้าฉนวนกันความร้อน/เย็น เกรดพรีเมี่ยม และสินค้าเพื่อใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรม Ultra Low Temperature Insulation และ ระบบ Air Ducting system ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นในกลุ่มลูกค้าโครงการ ได้แก่ กลุ่ม Semi-Conductor/ Cloud/ และยานยนต์ เป็นต้น อีกทั้งยอดขายในญี่ปุ่นเติบโตดี
– ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas มียอดขาย 1,709 ล้านบาท ลดลง 0.3 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 11.6% จากไตรมาสก่อน โดยหลังคาครอบกระบะ (Canopy) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งคำสั่งซื้อสินค้าใหม่จากค่ายยานยนต์ญี่ปุ่นซึ่งจะรับรู้รายได้เต็มปีในปีบัญชีนี้ ส่วนธุรกิจในออสเตรเลียมียอดขายปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศชะลอตัวจากไตรมาสก่อนเนื่องจากช่วงปลายปีเป็นเทศกาลที่มีวันหยุดยาว
– ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มียอดขาย 696 ล้านบาท ลดลง 1.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 11.2% จากไตรมาสก่อน โดยบริษัทได้รับประโยชน์จากกิจกรรมเฉลิมฉลองช่วงปลายปี 2567 ที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง บริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด ได้ใช้จุดเด่นจากมาตรฐานต่าง ๆ เช่น มอก./ GMP/ HACCP/ BRC และ FSC จึงเป็นที่ไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเลือกให้เป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก
บริษัทมีต้นทุนขายสินค้า เพิ่มขึ้น 4.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราที่ช้ากว่าการเพิ่มขึ้นของยอดขาย บริษัทได้จัดหาวัตถุดิบจากแหล่งผลิตในหลายประเทศเพื่อให้ต้นทุนเฉลี่ยจากราคาวัตถุดิบมีราคาเหมาะสม สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 6.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมาจากค่าใช้จ่ายในการจัดส่งของแอร์โรเฟลกซ์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารของ บริษัท ทีเจเอ็ม เอเชีย แปซิฟิก จำกัด ในประเทศไทย และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจากธุรกิจในออสเตรเลีย ที่เพิ่มขึ้น
ในไตรมาสนี้บริษัทมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 48 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 68 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง 92 ล้านบาท และเป็นขาดทุนที่เกิดขึ้นจริง 140 ล้านบาท ภาพรวมความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาสนี้ ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลีย จึงมีผลกระทบรวมที่เป็นบวกเล็กน้อยต่อการดำเนินงานของบริษัท
บริษัทมีการตั้งสำรองผลขาดทุนทางเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ที่ 58 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากรายการลูกหนี้การค้าของบริษัท แอร์โรคลาส จำกัด ซึ่งจำหน่ายวัตถุดิบเพื่อใช้ผลิตสินค้าให้แก่ธุรกิจร่วมทุนในแอฟริกาใต้ ซึ่งได้รับคำสั่งซื้อสำคัญจากค่ายยานยนต์รายใหญ่ในมูลค่าที่เพิ่มขึ้น การแก้ไขปัญหาอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับ Supply chain ทั้งหมด โดยผลการเจรจาคืบหน้าไปด้วยดี เป็นผลให้ในไตรมาสนี้บริษัทร่วมทุนมีเงินสดรับเพิ่มขึ้นและทยอยชำระหนี้ให้ บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด แล้ว คาดว่าในไตรมาสถัดไปจะได้รับชำระหนี้อีกจำนวนหนึ่ง
นอกจากนี้ บริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่ 42 ล้านบาท มาจากผลประกอบการของ ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น และธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ ทั้งในและต่างประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 68)
Tags: EPG, อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป, เฉลียว วิทูรปกรณ์