นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยถึงการขยายการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศอื่น หลังจากที่ได้มีมาตรการตัดไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต และห้ามส่งน้ำมัน ไปยังฝั่งประเทศเมียนมา ว่า ในฝั่งประเทศกัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต และห้ามส่งน้ำมัน โดยขอติดตามผลดำเนินการในมาตรการที่ออกไปก่อนหน้านี้
ส่วนที่มีข้อกังวลว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาจย้ายฐานจากฝั่งเมียนมาไปกัมพูชานั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้เตรียมการทุกอย่างไว้หมดแล้ว โดยพร้อมรับมือและจัดการ ซึ่งเห็นได้จากการประกาศให้มีการคุมเข้มตามแนวชายแดน ดำเนินการเป็นขั้นตอนมาตลอด ซึ่งผลที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็ถือว่าดี รวมถึงทูตประเทศต่าง ๆ ได้แสดงความขอบคุณ ขณะที่ชนกลุ่มน้อยก็ประกาศว่าจะไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี
“ได้เดินทางไปตรวจชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ จ.สระแก้ว เพื่อไปดูว่า หากมีการย้ายฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากฝั่งเมียนมากลับไปอยู่ที่เดิม คือ ปอยเปต ประเทศกัมพูชา จะต้องมีการเตรียมรับมืออย่างไร ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมการตัดสัญญาณต่าง ๆ ไว้หมดแล้ว ส่วนจะใช้มาตรการเหมือนที่ใช้กับฝั่งเมียนมาหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะสถานการณ์แตกต่างกัน” รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าว
พร้อมระบุว่า เรื่องการปรามปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น รัฐบาลได้ประกาศชัดเจนแล้ว และเป็นไปตามสิ่งที่ดำเนินการไป โดยตนจะลงพื้นที่ตลอดภายใน 6 เดือนนี้
ส่วนการจับกุมตัว พ.อ.หม่อง ชิต ตู ผู้นำคนปัจจุบันของกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยงนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้เห็นแถลงการณ์ที่ส่งมาให้แล้ว ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ แต่เป้าหมายสูงสุดคือการทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามชายแดนหมดไป และช่วยให้ประชาชนที่ถูกหลอกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ไม่ว่าประเทศไหนได้กลับคืนถิ่นฐาน
อย่างไรก็ดี ในช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นการประชุมภายในของ สมช.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 68)
Tags: กัมพูชา, ตัดอินเตอร์เน็ต, ตัดไฟฟ้า, ภูมิธรรม เวชยชัย, เมียนมา, แก๊งคอลเซ็นเตอร์