มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 30 ราย บางรายได้รับบาดเจ็บสาหัส จากเหตุการณ์ผู้ขอลี้ภัยชาวอัฟกานิสถานขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนในเมืองมิวนิกเมื่อวันพฤหัสบดี (13 ก.พ.) ซึ่งมาร์คุส โซเดอร์ นายกรัฐมนตรีรัฐบาวาเรีย คาดว่าน่าจะเป็นการโจมตี ส่งผลให้การรักษาความปลอดภัยก่อนการเลือกตั้งของเยอรมนีในสัปดาห์หน้ากลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่บรรดาผู้นำจากนานาประเทศ ซึ่งรวมถึง รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ของสหรัฐฯ และปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน จะเดินมาถึงเมืองทางตอนใต้ของเยอรมนี เพื่อเข้าร่วมการประชุมความมั่นคงมิวนิก
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า รถยนต์สีขาวขับเข้ามาใกล้รถตำรวจซึ่งกำลังเคลื่อนที่มาพร้อมกับกลุ่มคนงานที่ออกมาประท้วง ก่อนรถคันดังกล่าวจะเร่งความเร็วขึ้นและพุ่งเข้าใส่ฝูงชน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ยิงใส่ผู้ก่อเหตุ 1 นัด แต่ยังไม่ทราบว่าเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมตัวคนขับวัย 24 ปี ก่อนที่ในเวลาต่อมาอัยการสูงสุดของมิวนิกจะยืนยันว่าเขามีนามว่าฟาร์ฮัด นูรี ขณะที่แรงจูงใจของผู้ก่อเหตุยังไม่เป็นที่แน่ชัด
โจอาคิม แฮร์มันน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของบาวาเรีย กล่าวว่า ตำรวจทราบว่าผู้ต้องสงสัยมีคดียาเสพติดและลักขโมยของในร้านค้า และเสริมว่า คำร้องขอสถานะผู้ลี้ภัยของเขาถูกปฏิเสธ แต่เขาไม่ได้ถูกบังคับให้ออกนอกประเทศเนื่องจากกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงในอัฟกานิสถาน
ทั้งนี้ ปัญหาการย้ายถิ่นฐานและความมั่นคงปลอดภัยเป็นประเด็นหลักในการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งวันที่ 23 ก.พ. โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเกิดเหตุรุนแรงหลายเหตุการณ์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผลสำรวจแสดงให้เห็นว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมฝ่ายกลางขวามีคะแนนนำ ตามมาด้วยกลุ่มขวาจัด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 68)
Tags: การเลือกตั้ง, ผู้ลี้ภัย, อัฟกานิสถาน, เยอรมนี