ทางการสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ (14 ก.พ.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 4.4% ในปี 2567 ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในปี 2566 ที่ขยายตัวเพียง 1.8% และเป็นการขยายตัวในอัตราสูงสุดในรอบ 3 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2564
ส่วนในไตรมาส 4 ปี 2567 GDP ของสิงคโปร์ขยายตัว 5% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์สำรวจในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 4.7% แต่ต่ำกว่าในไตรมาส 3 ที่มีการขยายตัว 5.7%
อย่างไรก็ดี แม้ว่าข้อมูลล่าสุดจะบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ทั้งจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนไปจนถึงความตึงเครียดด้านการค้าซึ่งมีสาเหตุมาจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่เศรษฐกิจสิงคโปร์ก็แนวโน้มที่จะเผชิญความเสี่ยงในอนาคต
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ต้นทุนที่สูงขึ้นตั้งแต่ที่อยู่อาศัยไปจนถึงอาหารนั้น ยังคงสร้างความกังวลให้ชาวสิงคโปร์ ซึ่งพรรครัฐบาลอาจต้องเร่งแก้ไขก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นภายในเดือนพ.ย.นี้ โดยนายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง คาดว่าจะแถลงนโยบายงบประมาณวันที่ 18 ก.พ. เพื่อประกาศมาตรการสนับสนุนชาวสิงคโปร์กลุ่มเปราะบางและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ยืนยันตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2568 ที่ 1% – 3%
กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ระบุว่า “เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งอาจจะส่งผลให้การขยายตัวของภาคการผลิตและบริการของสิงคโปร์ในปี 2568 จะชะลอตัวลงจากระดับของปี 2567”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 68)
Tags: GDP, สิงคโปร์, เศรษฐกิจสิงคโปร์