![](https://www.infoquest.co.th/wp-content/uploads/2024/11/20241125_Canva_อัสสเดช-คงสิริ-1024x576.png)
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ขณะนี้ตลท.ได้ปรึกษาหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อออกผลิตภัณฑ์ที่จะกระตุ้นตลาดทุนไทย ซึ่งปีที่ผ่านมามีกองทุน ThaiESG เม็ดเงินไหลเข้าราว 3-4 หมื่นล้านบาท แต่ส่วนใหญ่ลงทุนในกองทุนที่ลงทุนพันธบัตรค่อนข้างมาก ซึ่งจากการปรึกษาหารือจะผลักดันให้มีทางเลือกที่เป็น “LTF 2” ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ที่เน้นการสนับสนุนด้าน ESG และลงทุนในหุ้น ซึ่งตอนนี้กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาและหวังว่าใน 1-2 สัปดาห์นี้จะเห็นความชัดเจนมากขึ้น
ขณะที่ตลาดหุ้นไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดประเทศหนึ่ง แต่ช่วงระยะสั้น ๆ ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานไม่ได้ดี นอกจากนี้ในอดีต 10 ปีย้อนหลัง บริษัทจดทะเบียนในไทยมีการเติบโตเฉลี่ยเพียง 3% จึงต้องมีการร่วมมือกับในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เพื่อผลักดันและจูงใจให้บริษัทจดทะเบียนทำแผนเพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเอง
ในระยะสั้น ประเด็น Trust and Confidence เป็นเรื่องที่ตลท. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำลังทำงานกันค่อนข้างหนัก เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์ที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนค่อนข้างมาก ซึ่งประเด็นดังกล่าวต้องใช้เวลาในการดึงความเชื่อมั่นกลับมา ซึ่งประเด็นการดำเนินงานอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันการทำงานร่วมกับระหว่างก.ล.ต. และตลท. มีการประสานงานกันอย่างรวดเร็วและดีขึ้นกว่าในอดีตมาก
อีกด้านที่มีการประกาศออกไปแล้วคือเรื่องความเร็วในการทำข้อมูล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญเนื่องจากนักลงทุนบางรายต้องการข้อมูลที่รวดเร็ว ดังนั้นตลท.ต้องคำนึงถึงการทำให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและเท่าเทียม ล่าสุดที่มีการประกาศออกไป คือการให้โบรกเกอร์ทุกรายมีสิทธิเข้าไปวาง Server หรือระบบ ในตลาดหลักทรัพย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ลูกค้าของโบรกสามารถเช้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับ Bond Connext เป็นแผนที่ตลท.กำลังพัฒนาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยมีความตั้งใจจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้นักลงทุนโดยรวมเข้าถึงพันธบัตรรัฐบาล ซื้อขายได้สะดวก คล่องขึ้น โดยอาจเป็นในรูปแบบ tokenization หรือรูปแบบอื่น อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3-4/68
นายอัสสเดช กล่าวถึงประเด็นสงครามการค้าจากนโยบายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐว่า ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ทรัมป์ 1.0 จนถึงวันนี้ มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนของจีนมายังเอเชียประมาณ 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แต่ไทยดึงดูดได้เพียง 10% มองว่ายังมีโอกาสในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเพิ่ม และประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่อาจจะผลักดันเศรษฐกิจไทยได้ค่อนข้างดี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 68)
Tags: LTF, ThaiESG, ตลาดหุ้นไทย, อัสสเดช คงสิริ