![](https://www.infoquest.co.th/wp-content/uploads/2025/02/B60F2303651F110D908E1187D69C96D9.jpg)
บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด ร่วมมือกับมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย (AIP Foundation) สานต่อโครงการ “Bridgestone Road Safety” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยในการเดินทางแก่เยาวชนซึ่งเป็นพลังสำคัญของประเทศ รวมถึงขยายผลสู่ชุมชนเพื่อสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต
โดยในปีนี้โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม จ.สระบุรี ได้รับเลือกให้เป็นโรงเรียนนำร่องและได้รับการสนับสนุนด้วยการปรับปรุงพื้นที่ความปลอดภัยบนท้องถนน รวมถึงการจราจรบริเวณโรงเรียนและชุมชนใกล้เคียงให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ นักเรียนยังได้แสดงศความสามารถถ่ายทอดแนวคิดสังคมความปลอดภัยในการเดินทางอย่างยั่งยืนผ่านนิทรรศการสู่การนำไปปฏิบัติจริง ซึ่งสอดคล้องตามเจตนารมณ์ในการแสดงความรับผิดชอบขององค์กรต่อสังคมผ่านการส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนของบริดจสโตนทั่วโลก
นายอะกิฮิโตะ อิชิอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นด้านการเดินทางอย่างยั่งยืน บริดจสโตนตระหนักถึงการส่งเสริมสังคมความปลอดภัยในการเดินทางเสมอมา โดยโครงการ Bridgestone Road Safety ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 สำหรับในปีนี้ บริดจสโตนร่วมมือกับ 4 โรงเรียน ได้แก่ 1. โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม จ.สระบุรี 2. โรงเรียนบ้านค่าย จ.ระยอง 3. โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม จ.นนทบุรี และ 4. โรงเรียนวิสุทธรังษี จ.กาญจนบุรี เพื่อวางรากฐานการจัดการพื้นที่ความปลอดภัยบนท้องถนน ตลอดจนเสริมสร้างจิตสำนึก วินัยจราจร และความมีน้ำใจในการใช้รถใช้ถนน นอกเหนือจากการเรียนการสอนในห้องเรียนให้กับอาจารย์และนักเรียน สู่การนำไปปรับใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งรอบบริเวณโรงเรียนและชุมชนใกล้เคียง โดยโรงเรียนสระบุรีวิทยาคมได้รับคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนนำร่องเข้าปรับปรุงและส่งมอบพื้นที่ความปลอดภัยบนท้องถนนและการจราจรบริเวณโรงเรียนและชุมชนละแวกใกล้โรงเรียนด้วยเกณฑ์ประเมินระดับดาวด้านความปลอดภัย (Star Ratings for Schools system หรือ SR4S) ของ iRAP นอกจากนี้ น้องๆ นักเรียนยังได้ร่วมนำเสนอแนวคิดสังคม ความปลอดภัยในการเดินทางอย่างยั่งยืนผ่านนิทรรศการสู่การนำไปประยุกต์ใช้ต่อไป ตลอด 4 ปีนี้ มีโรงเรียนทั้งสิ้น 16 โรงเรียน นักเรียนกว่า 600 คน รวมถึงเยาวชนต้นแบบ (Bridgestone Youth Champions) อีก 32 คน ที่ได้รับการต่อยอดความรู้ความปลอดภัยในการเดินทางและสามารถขยายผลสู่ชุมชนของพวกเขาได้อย่างยั่งยืน”
ทางด้านนายวัฒนพงษ์ พงศ์กิจจาเลิศ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สระบุรี กล่าวว่า “จ.สระบุรี เป็นเสมือนด่านผ่านระหว่างภาคกลางกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และยังมีความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมลำดับต้น ๆ ของประเทศ ซึ่งส่งผลให้การจราจร รวมถึงคมนาคมขนส่ง และการท่องเที่ยวคับคั่ง อีกทั้งผู้ใช้รถใช้ถนนยังมีความประมาทและขาดวินัยจราจรซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้เกิดการสูญเสียทางทรัพย์สิน การได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนการเสียชีวิต ผมขอขอบคุณบริดจสโตน รวมถึง AIP และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่จัดโครงการดังกล่าวนี้และเข้าสนับสนุนโรงเรียนสระบุรีวิทยาคมเพื่อให้นักเรียนและประชาชนในพื้นที่ได้รับความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้น นับเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเป็นอย่างยิ่ง”
ส่วนมิเรียม ซิดิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย (AIP Foundation) เผยถึงความสำคัญและหลักเกณฑ์การปรับปรุงพื้นที่ความปลอดภัยบนท้องถนนสำหรับโรงเรียนสระบุรีวิทยาคมภายใต้โครงการ Bridgestone Road Safety ปีที่ 4 ว่า “ในวันนี้ พวกเราทุกคนต่างมีเป้าหมายร่วมกัน นั่นคือ การสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น และยั่งยืนยิ่งขึ้น ดิฉันขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณบริดจสโตน ภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็งในพื้นที่ จ.สระบุรี รวมถึงอาจารย์และน้องๆ นักเรียนโรงเรียนสระบุรีวิทยาคมที่ร่วมเป็นพลังสู่การปรับเปลี่ยนครั้งใหม่ให้เกิดขึ้น การส่งมอบพื้นที่ความปลอดภัยบนท้องถนนในวันนี้ใช้ผลการประเมินและข้อเสนอแนะจากเกณฑ์การประเมินระดับดาวด้านความปลอดภัย (Star Ratings for Schools system หรือ SR4S) ของ iRAP ในการวัดประเมินผลด้านความเสี่ยงการใช้รถใช้ถนนของนักเรียนระหว่างไป-กลับโรงเรียน ดังนั้นเพื่อป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน เราจึงได้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้วยการจัดทำป้ายจราจรที่แสดงขีดจำกัดความเร็วลดลงจาก 45 กม./ชม. เป็น 30 กม./ชม. รวมถึงการทำเครื่องหมายเส้นขอบถนนที่ประตูทางเข้า การทาสีขอบถนน และการทาสีเส้นจราจรเดิมใหม่เป็นระยะทาง 400 เมตร จากโรงเรียน การดำเนินการดังกล่าวนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ตามเป้าหมายเพื่อลดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้ได้ 50% ภายในปี พ.ศ. 2573 นอกจากนี้ยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษาได้อย่างปลอดภัยและเท่าเทียมแก่เยาวชนซึ่งถือเป็นอนาคตสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.พ. 68)
Tags: บริดจสโตน