ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (11 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นแอปเปิ้ล (Apple) และโคคา-โคล่า (Coca-Cola) ขณะเดียวกันนักลงทุนซึมซับการแสดงความเห็นของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และเฟดไม่จำเป็นต้องรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,593.65 จุด เพิ่มขึ้น 123.24 จุด หรือ +0.28%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,068.50 จุด เพิ่มขึ้น 2.06 จุด หรือ +0.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,643.86 จุด ลดลง 70.41 จุด หรือ -0.36%
พาวเวลได้แถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาของสหรัฐฯ ในวันอังคาร โดยกล่าวว่าเฟดไม่จำเป็นต้องรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ และอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
“เนื่องจากเรากำลังใช้นโยบายที่ได้ผ่อนคลายลงอยู่แล้วเมื่อเทียบกับในอดีต และเศรษฐกิจก็ยังคงมีความแข็งแกร่ง ทำให้เราไม่จำเป็นต้องเร่งรีบปรับจุดยืนด้านนโยบายของเรา เราตระหนักว่าการผ่อนคลายนโยบายที่เร็วเกินไปหรือมากเกินไปนั้นจะเป็นปัจจัยขัดขวางความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ ขณะเดียวกัน การผ่อนคลายนโยบายที่ช้าเกินไปหรือน้อยเกินไปก็จะสร้างความอ่อนแอต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน ด้วยเหตุนี้เราจึงใช้ความระมัดระวังต่อความเสี่ยงทั้งสองด้าน และนโยบายของเราก็สามารถรับมือความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่เราเผชิญอยู่” พาวเวลกล่าว
พาวเวลมีกำหนดแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ (12 ก.พ.) เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งปรับตัวขึ้น 0.91% และ 0.76% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 1.23% และ 0.22% ตามลำดับ
หุ้น Apple พุ่งขึ้น 2.2% หลังจากเว็บไซต์ข่าวดิ อินฟอร์เมชัน (The Information) รายงานว่า Apple กำลังร่วมมือกับอาลีบาบา (Alibaba) ในการพัฒนาและเปิดตัวฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับผู้ใช้ iPhone ในประเทศจีน
หุ้น Coca-Cola ทะยานขึ้น 4.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2567 ที่ระดับ 55 เซนต์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 52 เซนต์
หุ้น Phillips 66 ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 4.7% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทเอลเลียต แมเนจเมนต์ คอร์ป (Elliott Management Corp) เข้าซื้อหุ้นใน Phillips 66 เป็นมูลค่ากว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์
หุ้น Tesla ร่วงลง 6.3% หลังจากสื่อหลายสำนักรายงานว่า กลุ่มนักลงทุนซึ่งนำโดยอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา เสนอเงินมูลค่า 9.74 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อซื้อกิจการโอเพนเอไอ (OpenAI)
นักลงทุนยังคงจับตามาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ หลังจากที่เขาประกาศขึ้นอัตราภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ เป็น 25% จากอัตราเดิมที่ระดับ 10% และกล่าวว่าจะมีการประกาศมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในอีก 2 วันข้างหน้านี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.พ. 68)
Tags: ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก