![](https://www.infoquest.co.th/wp-content/uploads/2020/03/MONEY13-1024x502.jpg)
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 33.96 บาท/ดอลลาร์ จากปิดวันก่อนที่ระดับ 33.91 บาท/ดอลลาร์
โดยคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways มีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ตามการทยอยแข็งค่าขึ้นของ เงินดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลผลกระทบจากการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาล Trump 2.0
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทนั้น การทยอยอ่อนค่าลงของเงินบาทในช่วงนี้ ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มการดำเนินนโยบาย กีดกันทางการค้าของรัฐบาล Trump 2.0 ทำให้ประเมินว่า เงินบาทมีความเสี่ยงกลับมาเป็นแนวโน้มทยอยอ่อนค่าลงต่อได้ไม่ยาก
“เงินบาทยังเสี่ยงเผชิญความผันผวนในลักษณะ Two-Way Volatility ซึ่งจะขึ้นกับแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทาง การค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่สุดท้าย จะกระทบต่อมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการปรับ ดอกเบี้ยนโยบายของเฟด” นายพูน ระบุ
พร้อมกันนี้ ควรจับตาทิศทางราคาทองคำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการทยอยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา ได้ช่วยลดทอนแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทอย่างเห็นได้ชัด ทำให้หากราคาทองคำเริ่มย่อตัวลงบ้าง ก็ยิ่งกดดันให้เงินบาทเสี่ยงอ่อนค่าลง ต่อเนื่องได้ นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้จะอยู่ที่ระดับ 33.85-34.10 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 151.87 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 152.20/21 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0300 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0327/0328 ดอลลาร์/ยูโน
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 33.876 บาท/ดอลลาร์
- รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้จะหารือกับหอการค้าอเมริกันในไทยและนักธุรกิจของสหรัฐที่อยู่ในไทย เพื่อหารือและรับ ฟังปัญหาถึงผลกระทบที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินหน้าขึ้นภาษีการค้ากับประเทศต่างๆ และอาจมีผลกระทบต่อประเทศ ไทย ทั้งนี้ในเบื้องต้นมี 2-3 เรื่อง เช่น เรื่องของภาษี เรื่องพลังงาน เป็นต้น
- ตลท. ชี้เตรียมหารือ “คลัง” พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแผนระยะสั้นหวังพลิกฟื้น “ความเชื่อมั่น” ตลาดหุ้นไทย หลังดัชนีฯ ร่วงต่อเนื่อง พร้อมหารือออก “แอลทีเอฟ” และ “ไทยอีเอสจี” หนุนลงทุนหุ้นมากขึ้น ชี้แผนระยะยาวมีแผนโรดโชว์นักลงทุนโชว์บจ.พื้นฐาน ดี หนุนเม็ดเงินลงทุนไหลเข้า
- สมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันระยะเวลา 1 เดือน 10 วัน ราคาทองคำปีนี้ปรับขึ้นมาสูงถึง 4,100 บาท โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (10 ก.พ.68) ราคาทองคำยังคงปรับขึ้นและทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติศาสตร์ต่อเนื่อง โดยปรับขึ้น ทันที 250 บาท ตั้งแต่เปิดตลาด จากนั้นระหว่างวันเปลี่ยน 11 ครั้ง ณ เวลา 15.29 น. ราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 46,400 บาท ขายออกบาทละ 46,500 บาท และทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 45,570.96 บาท ขายออกบาทละ 47,000 บาท
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมสู่ระดับ 25% โดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลืออุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ ที่กำลังประสบปัญหา แต่มาตรการดัง กล่าวก็ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเกิดสงครามการค้า
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (10 ก.พ.) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขู่ทำสงครามการค้ารอบใหม่ ซึ่งนักลงทุนมองว่าอาจจะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ (10 ก.พ.) และปิดที่เหนือระดับ 2,900 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลว่ามาตรการ ภาษีศุลกากรรอบใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมปื ผู้นำสหรัฐฯ อาจส่งผลให้เกิดสงครามการค้าและทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น
- ซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาทองคำในระยะใกล้ (0-3 เดือน) ขึ้นสู่ระดับ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ จากเดิม 2,800 ดอลลาร์ และคงตัวเลขคาดการณ์ราคาทองคำในช่วง 6-12 เดือนเอาไว้ที่ระดับ 3,000 ดอลลาร์ เนื่องจากคาดว่านัก ลงทุนจะเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งรวมถึงสงครามการค้าระหว่างจีนและ สหรัฐฯ และผลกระทบที่จะมีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
- ธนาคารยูบีเอส (UBS) ระบุว่า แม้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรได้ผลักดันราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูง สุดเป็นประวัติการณ์ไปแล้ว แต่ก็คาดว่าราคาทองคำยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นอีก โดยยูบีเอสได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำขึ้นสู่ระดับ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า – ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ สัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (CPI) เดือนม.ค.ในวันพุธนี้ (12 ก.พ.) และดัชนี ราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค.ในวันพฤหัสบดี (13 ก.พ.)
- นักลงทุนจับตาเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วย นโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.พ. 68)
Tags: ค่าเงินบาท, อัตราแลกเปลี่ยน, เงินบาท