CONSENSUS: BBIK กำไรโค้งสุดท้ายปี 67 เด่น งานในมือแน่น รอรับงาน Virtual Bank กลางปี

โบรกเชียร์ “ซื้อ” หุ้นบมจ.บลูบิก กรุ๊ป [BBIK] คาดกำไรไตรมาส 4/67 โตทั้ง QoQ และ YoY ด้าน Backlog คาดว่าจะอยู่ในระดับสูง โดยได้แรงหนุนจากการปล่อยโครงการภาครัฐและการใช้จ่ายด้านไอทีอย่างต่อเนื่องในภาคธนาคาร แนวโน้มปี 68 สดใสต่อ ได้แรงหนุนจากการขยายตัวของธุรกิจ Digital Excellence จากการชนะงานประมูลโครงการพัฒนาระบบชำระเงินดิจิทัล (Payment Platform) ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของภาครัฐ รวมทั้งได้อานิสงส์การเร่งการลงทุน Cyber Security การลงทุน Data Center และ AI ที่มากขึ้น

นอกจากนี้ในช่วงกลางปี 68 จะเห็นความชัดเจนในด้านการรับงานเกี่ยวกับ Virtual Bank

ปิดเที่ยง ราคาหุ้น BBIK 34.00 บาท ลดลง 0.25 บาท (-0.73%)

โบรกเกอร์คำแนะนำราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
ทิสโก้ซื้อ52.25
ดาโอซื้อ52.00
เมย์แบงก์ซื้อ50.10
หยวนต้าซื้อ47.50
พายซื้อ46.00
บียอนด์ซื้อ44.00

นักวิเคราะห์จาก บล.ดาโอ กล่าวว่า กำไรไตรมาส 4/67 ดีกว่าเดิมมาที่ 106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% YoY 15% QoQ ทำสถิติสูงสุดใหม่ จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็น 403 ล้านบาท เติบโต 9% YoY 4% QoQ ตาม Backlog ที่ยังสูง และลูกค้าเร่งปิดงานก่อนสิ้นปี GPM จะเพิ่มขึ้นเป็น 50.0% เนื่องจากงานโดยรวมมี GPM สูงขึ้น และมีการปรับปรุงรายได้บางรายการ และส่วนแบ่งกำไรเงินลงทุน JV จะลดลงเล็กน้อยเป็น 21 ล้านบาท เนื่องจากมีการเร่งรับรู้รายได้ในงวดไตรมาส 3/67 ไปมากแล้ว

โดยปรับประมาณการกำไรปี 67 ขึ้น 4% เป็น 233 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7%YoY ตามแนวโน้มกำไนในไตรมาส 4/67 ที่ดีกว่าเดิม และยังคงประมาณการกำไรปี 68 ที่ 369 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% YoY ตามการลงทุนด้าน Digital Transformation ที่สูงขึ้น ทั้งจากอานิสงส์การเร่งการลงทุน Cyber Security โดยเฉพาะจากธุรกิจธนาคารและสื่อสาร การลงทุน Datacenter และ AI ที่มากขึ้น นอกจากนี้ในช่วงกลางปี 68 จะเห็นความชัดเจนในด้านการรับงานเกี่ยวกับ Virtual Bank

ด้านราคาหุ้น BBIK Outperform SET +14% ใน 6 เดือน จากกำไรไตรมาส 3/67 ที่ทำ New High และดีกว่าคาดแต่ underperform SET -5%/-9% ในช่วง 1 และ 3 เดือน ซึ่ง BBIK เป็นหุ้นที่มี beta สูงที่ 1.4 (ข้อมูลจาก Bloomberg ย้อนหลัง 2 ปี) ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวลงแรงกว่าในช่วงที่ SET Index เป็นขาลง ทั้งนี้ เรายังแนะนำซื้อ และประเมินว่าราคาหุ้นจะกลับมา outperform SET ได้ จากกำไร ไตรมาส4/67 ที่จะ ดีกว่าเดิม และภาพการลงทุน digital transformation ในปี 68 ที่จะกลับมาเร่งตัวมากขึ้น ยังคงราคาเป้าหมายเป็น 52.00 บาท

บล.บียอนด์ คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% YoY 21% QoQ โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากการส่งมอบงานที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี แม้ว่า Backlogs ณ สิ้นไตรมาส 3/67 จะลดลงอยู่ที่ 871 ล้านบาท จาก 905 ล้านบาท ในไตรมาส 2/67 แต่การเร่งส่งมอบงานช่วยให้รายได้ในไตรมาสนี้เติบโตขึ้น เราคาดรายได้ในไตรมาส 4/67 จะอยู่ที่ 417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%YoY 7% QoQ ซึ่งการเติบโตของรายได้ยังคงมาจากงานพัฒนาระบบสำหรับองค์กร โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าภาคเอกชน ซึ่งกลุ่มหลักที่มีการลงทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าการเงินและธนาคาร ประกัน เป็นหลัก

เรายังคงสมมติฐานกำไรสุทธิของบริษัทในปี 67 จะอยู่ที่ 306 ล้านบาท โดยการเติบโตของกำไรยังคงได้รับแรงหนุนจากการเข้าร่วมประมูลงานจากทั้งภาครัฐและเอกชนมากขึ้น โครงการที่เข้าร่วมประมูลเน้นไปที่โซลูชั่นด้าน Digital Transformation ระบบ AI Solutions และโครงการพัฒนาด้านไอทีของทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ จะเป็นกลยุทธ์หลักในการเติบโตในระยะยาว

เราคาดกำไรสุทธิของ BBIK จะเติบโตประมาณ 21% ในปี 68 โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของธุรกิจ Digital Excellence จากการชนะงานประมูลโครงการพัฒนาระบบชำระเงินดิจิทัล (Payment Platform) มูลค่า 90 ล้านบาทเป็นโครงการสำคัญของภาครัฐ โครงการจะแล้วเสร็จภายในเดือนมี.ค. 68 รายได้โครงการนี้จะถูกบันทึกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 68 ช่วยสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรก เราปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จาก “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 44.00 บาท ณ สิ้นปี 68

บล.ทิสโก้ คาดการณ์กำไรใน ไตรมาส 4/67 ของ BBIK ที่ 102 ล้านบาท เติบโต 16% QoQ และ 32% YoY โดยได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้ ( ไตรมาส 4 เป็นช่วง high season ของการส่งมอบโครงการ) กำไรสุทธิควรได้รับอิทธิพลจากการใช้ประโยชน์จากพนักงานที่ดีขึ้นใน ไตรมาส 4/67

BBIK ควรเห็นการปรับปรุงผลการดำเนินงานหลักที่ดีขึ้น QoQ และ YoY ใน ไตรมาส4/67 จากทุกกลุ่มธุรกิจ เราคาดการณ์รายได้เติบโต 8% QoQ และ 13% YoY รายได้จากโครงการภาครัฐ (แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ลงนามใน 3Q24) ควรเริ่มเห็นผล ในส่วนกำไรสุทธิ เราประมาณการอัตรากำไรสุทธิขยายตัวเป็น 24% ใน ไตรมาส4/67 จาก 23% ใน ไตรมาส 3/67 และ 21% ใน ไตรมาส 4/66 โดยได้แรงหนุนจากประสิทธิภาพของพนักงานผ่านการประหยัดต่อขนาด (ชดเชยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารตามฤดูกาล) Backlog ใน ไตรมาส4/67 คาดว่าจะอยู่ในระดับสูง โดยได้แรงหนุนจากการปล่อยโครงการภาครัฐและการใช้จ่ายด้านไอทีอย่างต่อเนื่องในภาคธนาคาร อย่างไรก็ตาม Backlog รวมอาจลดลงเนื่องจากการอนุมัติงบประมาณที่ช้าลงตามฤดูกาลในช่วงปลายปีและการบันทึก Backlog ของ Orbit ในไตรมาสก่อน (เร็วกว่าปกติ)

ผู้บริหารยืนยันเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่งที่ 20-30% YoY ในปีนี้ และตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากภาครัฐให้ถึง 10-15% ของรายได้รวมในปี 68 (เทียบกับระดับเลขหลักเดียวสูงในปี 67) เราเชื่อว่าการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ของ BBIK ในการขยายในภาครัฐจะเป็นเครื่องยนต์การเติบโตใหม่ที่เสริมความยั่งยืนของการเติบโตในระยะยาว สำหรับ ไตรมาส1/68 เราคาดว่า BBIK จะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง การเพิ่ม Backlog ควรมาจากการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และโครงการภาครัฐใหม่ที่เกี่ยวกับแพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัล (ประกาศในมกราคม 68) การเติบโตของรายได้ควรยังคงแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของ Backlog ในขณะที่การใช้ประโยชน์จากการดำเนินงานและสิทธิประโยชน์ทางภาษี BOI ควรช่วยเพิ่มกำไรสุทธิ

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BBIK และชอบมากกว่า BE8 ด้วยหลายเหตุผล : 1) BBIK ดำเนินธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูงกว่า 2) BBIK มีการใช้ประโยชน์จากการดำเนินงานที่สูงกว่า และ 3) การประเมินมูลค่าของ BBIK น่าสนใจกว่า ราคาเป้าหมายของเราที่ 52.25 บาท สำหรับ BBIK มาจาก P/E สิ้นปี 68 ที่ 27.9 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปี) ความเสี่ยงด้าน downside ที่สำคัญ : ความล่าช้าในการปล่อยงบประมาณ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ การแข่งขันที่รุนแรง และความเสี่ยงด้านชื่อเสียง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.พ. 68)

Tags: , , , ,
Back to Top