สถาบันพัฒนาเกาหลี (KDI) เปิดเผยในวันนี้ (10 ก.พ.) ว่า เศรษฐกิจของเกาหลีใต้เผชิญความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เนื่องจากสงครามการค้าโลกที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ขณะที่แม้ภาคการผลิตของประเทศขยายตัวได้ดีพอประมาณ แต่ภาคการก่อสร้างยังคงซบเซาต่อเนื่อง
KDI ระบุในรายงานการประเมินเศรษฐกิจรายเดือนว่า เศรษฐกิจของเกาหลีใต้เติบโตปานกลางในด้านการผลิต อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมภายนอกที่ย่ำแย่ลงส่งผลให้ความเสี่ยงขาลงเพิ่มมากขึ้น โดยอ้างถึงข้อกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรล่าสุดของสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแผนการที่จะจัดเก็บภาษีศุลกากรอัตราสูงจากคู่ค้ารายใหญ่ ซึ่งเป็นความพยายามเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ และบรรลุเป้าหมายนโยบายอื่น ๆ
หน่วยงานคลังสมองของรัฐบาลเกาหลีใต้ระบุด้วยว่า ภาคการผลิตของเกาหลีใต้ปรับตัวดีขึ้นพอประมาณ โดยได้รับแรงหนุนจากการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และยานยนต์ที่แข็งแกร่ง แต่ภาคการก่อสร้างยังคงอ่อนแอ
KDI ชี้ว่า การฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศยังคงล่าช้า โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนก่อสร้าง ขณะที่การเติบโตที่แข็งแกร่งของการส่งออกค่อย ๆ ชะลอตัวลง ยกเว้นในภาคเซมิคอนดักเตอร์ ทั้งนี้ ตามข้อมูลจากรัฐบาลนั้น การส่งออกของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ลดลงในเดือนม.ค. 2568 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 16 เดือน
นอกจากนี้ KDI ยังชี้ว่า การบริโภคในภาคค้าปลีกที่อ่อนแรงลง และอัตราการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นของเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก นับเป็นอีกปัญหาที่น่ากังวล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.พ. 68)
Tags: KDI, สงครามการค้า, เศรษฐกิจเกาหลีใต้