SCBAM เปิดเพิ่ม Complex Fund หลังฮอตต่อเนื่อง ช่วยลดขาดทุนเงินต้น ขาย 10-17 ก.พ.

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ. ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เปิดเผยว่าภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ ยังมีความท้าทายจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงินและการปรับลดดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นจริงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และความผันผวนของตลาดหุ้น ในเชิงของการปรับพอร์ตลงทุนจึงมองว่าการมีตราสารหนี้ในพอร์ตยังเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยง มีโอกาสสร้างกระแสเงินสด พร้อมเสริมเสถียรภาพสมดุลพอร์ตให้เหมาะสมกับภาวะตลาดได้

ทั้งนี้ จากการเสนอขายกองทุนใหม่ในช่วงที่ผ่านมา การลงทุนที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากสัญญาออปชั่น เป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนให้การตอบรับอย่างดี สะท้อนผ่านกระแสเรียกร้องที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ SCBAM มองว่าตลาดหุ้นไทยยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนกับดัชนี SET50 ที่เป็นศูนย์รวมของหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานแกร่ง มีศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่น และมีโอกาสปรับตัวขึ้นจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัว ทั้งภาคการส่งออก ที่คู่ค้าหลายประเทศอาจเร่งนำเข้าสินค้าก่อนที่สงครามการค้าจะขยายตัวในวงกว้าง และการบริโภคในประเทศ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

SCBAM จึงเปิดกองทุน SCBCR1YW หรือ “กองทุนเปิดไทยพาณิชย์คอมเพล็กซ์รีเทิร์น 1YW ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย” กำหนดเสนอขายวันที่ 10 – 17 กุมภาพันธ์ 2568 เริ่มต้นเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้นักลงทุนที่ยังต้องการปรับสมดุลพอร์ตเพิ่มเติม

กองทุน SCBCR1YW เป็นกองทุน Complex Fund อายุ 1 ปี ที่ยังเน้นจุดเด่นกลยุทธ์ลงทุนต่อการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนแบบลดความเสี่ยงขาดทุนเงินต้น และโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากสัญญาออปชั่นที่เชื่อมโยงกับการปรับตัวของดัชนี SET50 ซึ่งจะแบ่งนโยบายลงทุนออกเป็น 2 ส่วน คือ

(1) การลงทุนตราสารหนี้และเงินฝากระดับ Investment Grade ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยสัดส่วนเงินลงทุนประมาณ 99.85% ของทรัพย์สินกองทุน ซึ่งตราสารหนี้เป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ จึงช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนเงินต้นได้ อีกทั้งมีโอกาสได้รับเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนดอายุโครงการ

(2) การลงทุนโดยการเข้าทำธุรกรรมสัญญาออปชั่น Digital Call ที่มีเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี SET50 ด้วยสัดส่วนเงินลงทุนประมาณ 0.15% ของทรัพย์สินกองทุน ซึ่งหากในวันพิจารณาผลตอบแทน ระดับดัชนี SET50 ปรับขึ้นเท่ากับหรือมากกว่า 10% จากวันที่เริ่มต้นสัญญา ก็จะเป็นโอกาสการรับผลตอบแทนเพิ่มจากส่วนออปชั่นเป็น Bonus Coupon ในอัตราผลตอบแทนคงที่ 0.40% ตามเงื่อนไขที่กองทุนระบุ โดยจะกำหนดจ่ายผลตอบแทนครั้งเดียวในวันครบอายุโครงการ

“การจัดพอร์ตลงทุนให้สมดุลเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อยากให้นักลงทุนมองข้าม เพราะเป็นส่วนที่เสริมให้พอร์ตลงทุนมีความทนทานต่อตลาดทุน หากเกิดปัจจัยที่ทำให้เกิดความผันผวน ซึ่งกองทุน SCBCR1YW จะช่วยสร้างสมดุลจากโอกาสที่ได้รับกระแสเงินสดที่มั่นคง จากการลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากกว่า 90% ขณะที่ ยังมีโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการลงทุนผ่านสัญญาออปชั่นจากกลุ่มหุ้นไทยพื้นฐานดีที่อ้างอิงตามดัชนี SET50 และอาจจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้พอร์ตมีโอกาสเติบโตได้อย่างสมดุล”นางนันท์มนัส กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.พ. 68)

Tags: , , ,
Back to Top