ผลสำรวจล่าสุดจากซีบีเอส นิวส์/ยูกอฟ (CBS News/YouGov) เผยว่า ชาวอเมริกันกว่าครึ่งมีความพอใจกับการทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในเดือนแรกที่เข้ารับตำแหน่ง
ผลสำรวจดังกล่าวซึ่งมาจากการสำรวจผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 2,175 คน ระหว่างวันที่ 29-31 ม.ค. บ่งชี้ว่า ทรัมป์ได้คะแนนนิยมพุ่งถึง 53% โดยมีค่าคลาดเคลื่อนอยู่ที่ประมาณ 2.5%
แม้จะได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนหลังการเลือกตั้ง แต่ผู้ตอบแบบสำรวจหลายรายแสดงความกังวลว่าปธน.ทรัมป์ยังพยายามไม่มากพอในการทำให้ราคาผู้บริโภคปรับตัวลดลง และผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่คัดค้านแผนขึ้นภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก แคนาดา และยุโรป
ผลสำรวจระบุว่า 66% ของชาวอเมริกันเห็นว่ารัฐบาลยังไม่ดำเนินการอย่างจริงจังมากพอในการปรับลดราคาสินค้า แม้แต่ผู้ตอบแบบสอบถามที่สนับสนุนพรรครีพับลิกันเองเกือบครึ่งก็มีความเห็นเช่นเดียวกัน
แม้ 56% จะเห็นด้วยกับการเก็บภาษีนำเข้า 10% จากจีน แต่คนส่วนใหญ่กลับคัดค้านแผนเก็บภาษี 25% จากเม็กซิโกและแคนาดา รวมถึงแผนขึ้นภาษีกับยุโรปที่ยังไม่ระบุอัตราที่ชัดเจน
นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจครึ่งหนึ่งยังระบุว่า อีลอน มัสก์ และทีมงานจากกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ควรมีบทบาท “อย่างมาก” หรือ “มีบทบาทบ้าง” ต่อการบริหารและใช้จ่ายของรัฐบาล โดยตัวเลขนี้พุ่งสูงแตะระดับ 74% ในกลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน
ทั้งนี้ เมื่อย้อนดูตัวเลขความนิยมเดือนแรกของของอดีตผู้นำสหรัฐฯ ผลสำรวจของแกลลัพ (Gallup) ระบุว่า อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยกวาดคะแนนนิยม 57% ในช่วงต้นเดือนก.พ. ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งวาระแรก ขณะที่บารัค โอบามา มีคะแนนนิยม 66% ในเดือนม.ค. 2552 และจอร์จ ดับเบิลยู. บุช มีคะแนนนิยม 59% ในเดือนก.พ. 2544 อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์เคยได้คะแนนนิยมต่ำสุดในรอบ 70 ปีเมื่อเริ่มดำรงตำแหน่งวาระแรก โดยได้คะแนนเพียง 44% ในเดือนม.ค. 2560
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.พ. 68)
Tags: สหรัฐ, โดนัลด์ ทรัมป์