หุ้นนิปปอนสตีลร่วง หลังทรัมป์ชี้นิปปอนเปลี่ยนเป็นลงทุนในยูเอสสตีล แทนซื้อกิจการ

หุ้นนิปปอน สตีล (Nippon Steel) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเหล็กรายใหญ่ของญี่ปุ่น ร่วงลง 2.6% ในตลาดหุ้นโตเกียวช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 4 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2567 หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น กล่าวภายหลังจากที่ประชุมร่วมกันว่า นิปปอน สตีล จะลงทุนจำนวนมากในบริษัทยูเอส สตีล (U.S. Steel) ของสหรัฐฯ แทนที่จะเข้าซื้อกิจการยูเอส สตีล ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน

ทรัมป์แถลงข่าวร่วมกับอิชิบะหลังเสร็จสิ้นการเจรจาที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (7 ก.พ.) ว่า “การเข้าซื้อกิจการยูเอส สตีล มูลค่า 1.41 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นแนวคิดที่ไม่ดีทางด้านจิตวิทยา ดังนั้นพวกเขาจึงตกลงที่จะลงทุนอย่างมากในยูเอส สตีล แทนการเข้าซื้อกิจการ” ขณะที่อิชิบะกล่าวถึงการลงทุนดังกล่าวว่า “เป็นประโยชน์ร่วมกัน”

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การที่นิปปอน สตีล จะลงทุนจำนวนมากในยูเอส สตีลนั้น ผิดไปจากแผนเดิมที่นิปปอน สตีล จะเข้าซื้อบริษัทเหล็กของสหรัฐฯ รายนี้ โดยนิปปอน สตีล ได้ประกาศแผนการซื้อกิจการยูเอส สตีล ครั้งแรกเมื่อเดือนธ.ค. 2566 ในวงเงิน 1.41 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทยังได้ร่วมมือกันในปีที่แล้วเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคมากมายทั้งในด้านกฎระเบียบและการเมือง กระทั่งในท้ายที่สุดอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ระงับการเข้าซื้อกิจการในเดือนม.ค.ปีนี้ โดยอ้างประเด็นความมั่นคงของชาติ ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนข้อตกลงนี้มองว่าการตัดสินใจของอดีตปธน.ไบเดนมีแรงจูงใจทางการเมือง

ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าการที่ทรัมป์และอิชิบะระบุว่านิปปอน สตีล จะเข้าลงทุนในยูเอส สตีลนั้น หมายถึงการลงทุนในรูปแบบใด เนื่องจากผู้นำทั้งสองไม่ได้ให้รายละเอียดว่าข้อตกลงจะเป็นอย่างไรหากไม่ใช่การซื้อกิจการทั้งหมด นอกจากนี้ ทั้งนิปปอน สตีล และยูเอส สตีล ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงทุนที่อาจเกิดขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.พ. 68)

Tags: , ,
Back to Top