ศาลสหรัฐฯ สั่งระงับโครงการจูงใจจนท.รัฐลาออก หลังยอดสมัครพุ่ง 6 หมื่นคน

ผู้พิพากษาศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) ให้ระงับโครงการจูงใจทางการเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐลาออกของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเลื่อนออกไปอย่างน้อยจนถึงวันจันทร์หน้า (10 ก.พ.) ถือเป็นชัยชนะเบื้องต้นของสหภาพแรงงานที่ยื่นฟ้องคัดค้านโครงการนี้

แม้โครงการจะถูกระงับ แต่แหล่งข่าวจากทำเนียบขาวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 60,000 คนที่ตอบรับข้อเสนอแล้ว

จอร์จ โอทูล ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ในบอสตัน มีคำสั่งให้ระงับโครงการดังกล่าวเอาไว้ก่อน โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปฏิรูประบบเจ้าหน้าที่รัฐครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

ในการพิจารณาคดีวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ผู้พิพากษาโอทูลอาจสั่งเลื่อนโครงการออกไปอีก หรืออาจระงับอย่างถาวรก็ได้ อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่รัฐยังสามารถแจ้งความจำนงขอลาออกได้จนถึงเวลา 23:59 น. ของวันจันทร์ ตามเวลาฝั่งตะวันออก (11:59 น. ของวันอังคารที่ 11 ก.พ. ตามเวลาไทย)

โครงการจูงใจทางการเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐลาออกเป็นส่วนหนึ่งของแผนใหญ่ของทรัมป์และพวกที่ต้องการลดขนาดและกุมบังเหียนระบบเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งทรัมป์มองว่าเป็นตัวถ่วงการทำงานของเขาในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก

โครงการนี้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยมีทั้งการประท้วงบนท้องถนน ตลอดจนเสียงคัดค้านจากสหภาพแรงงานและพรรคเดโมแครตที่กล่าวหาว่าทรัมป์กำลังละเมิดกฎหมายหลายข้อ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ต้องพิมพ์คำว่า “RESIGN” (ลาออก) ในหัวเรื่องอีเมลจากบัญชีราชการของตน

โครงการดังกล่าวเสนอจะจ่ายเงินเดือนและสวัสดิการให้ตามปกติจนถึงเดือนต.ค. โดยไม่ต้องมาทำงาน อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขดังกล่าวยังคงไม่แน่นอน เพราะกฎหมายงบประมาณจะหมดอายุวันที่ 14 มี.ค.นี้ และยังไม่รับประกันว่าจะมีเงินจ่ายเงินเดือนต่อหรือไม่

ด้านกระทรวงศึกษาธิการได้แจ้งเตือนพนักงานว่า คนที่ตอบรับโครงการนี้อาจถูกตัดเงินเดือนเมื่อใดก็ได้ ทำให้ทั้งสหภาพแรงงานและพรรคเดโมแครตออกมากล่าวว่าข้อเสนอนี้เชื่อถือไม่ได้

จากจำนวนเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด 2.3 ล้านคน มีผู้ตอบรับข้อเสนอแล้วราว 60,000 คน หรือประมาณ 2.5% แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจากหน่วยงานใดบ้าง

องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Partnership for Public Service ระบุว่า ในปีปกตินั้น มีเจ้าหน้าที่รัฐเกษียณหรือลาออกประมาณ 6%

ทางรัฐบาลได้แจ้งว่า ใครที่ไม่ยอมรับข้อเสนออาจโดนไล่ออกได้ และให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนเตรียมตัวรับมือกับการปลดคนครั้งใหญ่

ผู้บริหารคนหนึ่งจากกรมสรรพากรสหรัฐฯ เล่าว่า “พวกเราได้รับแจ้งว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ธรรมดา เพราะเป้าหมายคือต้องลดคนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

ทำเนียบขาวยังมองหากลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐอื่น ๆ ที่จะปลดออกเพิ่มเติม โดยล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดี รัฐบาลทรัมป์ได้ส่งหนังสือถึงหัวหน้าหน่วยงานทั่วรัฐบาล สั่งให้ทำรายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้ผลประเมินต่ำกว่า “ประสบความสำเร็จอย่างเต็มที่” (fully successful) ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยให้ส่งภายในวันที่ 7 มี.ค.

ในบันทึกข้อความระบุว่า ต้องกำจัดอุปสรรคทุกอย่างเพื่อให้แต่ละหน่วยงาน “ไล่คนที่ทำงานไม่ดีออกได้โดยเร็ว”

ทำเนียบขาวยังพยายามหาตัวเจ้าหน้าที่รัฐที่เพิ่งเข้าทำงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพราะคนกลุ่มนี้ยังไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเต็มที่ จึงปลดออกได้ง่ายกว่า

นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังสั่งให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ สำรวจรายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับการแต่งตั้งในสมัยอดีตปธน.โจ ไบเดน รวมถึงผู้ที่มีผลการประเมินการทำงานต่ำกว่าเกณฑ์

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.พ. 68)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top