“ทรัมป์” เซ็นคำสั่งแบนนักกีฬาหญิงข้ามเพศ ห้ามลงแข่งประเภทหญิง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันพุธ (5 ก.พ.) สั่งห้ามเด็กหญิงข้ามเพศและสตรีข้ามเพศลงแข่งกีฬาประเภทหญิง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คำสั่งนี้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมดูแลให้ทุกหน่วยงานรัฐบังคับใช้คำสั่งห้ามหญิงข้ามเพศลงแข่งกีฬาหญิงในโรงเรียน ตามที่ทรัมป์ตีความกฎหมาย Title IX ซึ่งเป็นกฎหมายห้ามเลือกปฏิบัติทางเพศในวงการศึกษา

“สงครามกับกีฬาหญิงจบลงแล้ว” ทรัมป์กล่าวในพิธีลงนาม โดยมีผู้หญิงและเด็กหญิงราว 100 คนยืนเป็นฉากหลัง ส่วนใหญ่เป็นเด็กสวมชุดยูนิฟอร์มกับชุดกีฬา

“รัฐบาลของผมจะไม่ยืนดูเฉยให้ผู้ชายมาเอาชนะและรังแกนักกีฬาหญิง”

คำสั่งดังกล่าวขู่จะตัดเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลางสำหรับโรงเรียนที่ยอมให้หญิงข้ามเพศลงแข่งกีฬาหญิง อย่างไรก็ดี คำสั่งนี้มีแนวโน้มจะถูกโต้แย้งทางกฎหมาย

คำสั่งนี้ส่งผลกระทบต่อนักกีฬาจำนวนไม่มาก โดยประธานสมาคมกีฬามหาวิทยาลัยแห่งชาติ (NCAA) เปิดเผยต่อที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อเดือนธ.ค.ว่า มีนักกีฬาข้ามเพศไม่ถึง 10 คน จากนักกีฬาทั้งหมด 530,000 คนใน 1,100 สถาบันที่เป็นสมาชิกของ NCAA

NCAA แสดงท่าทีสนับสนุนคำสั่งฝ่ายบริหารนี้ โดยระบุว่าจะช่วยวางมาตรฐานระดับชาติที่ชัดเจน แทนที่จะมี “กฎหมายของแต่ละรัฐและคำตัดสินศาลที่ขัดแย้งกัน” พร้อมแจ้งว่าจะปรับนโยบายให้สอดคล้องต่อไป

อนึ่ง ประเด็นนี้ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยทุกครั้งที่ทรัมป์พูดถึงการแบนนักกีฬาข้ามเพศในการหาเสียง ผู้ฟังต่างปรบมือกันเกรียวกราว นอกจากนี้ ทรัมป์ยังทำโฆษณาทีวีออกมาโจมตีการปล่อยให้ผู้หญิงข้ามเพศลงแข่งกีฬาผู้หญิงอีกด้วย

ผลโพลชี้ว่า คนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะให้นักกีฬาข้ามเพศลงแข่งในประเภทที่ตรงกับเพศที่พวกเขาระบุว่าเป็น และมี 25 รัฐที่นำโดยรีพับลิกันได้ออกกฎหมายห้ามผู้หญิงข้ามเพศลงแข่งกีฬาหญิง

คำสั่งนี้ออกมาต่อจากคำสั่งบริหารฉบับอื่น ๆ ของทรัมป์ที่ลิดรอนสิทธิคนข้ามเพศ ไม่ว่าจะเป็นการพยายามตัดงบสนับสนุนด้านสุขภาพสำหรับการแปลงเพศในเด็กอายุต่ำกว่า 19 ปี และการห้ามคนข้ามเพศรับราชการทหาร ซึ่งคำสั่งเหล่านี้ถูกโต้แย้งทางกฎหมายทันที

วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง (20 ม.ค.) ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งให้ข้าราชการใช้คำว่า “เพศ” (sex) เท่านั้น ห้ามใช้คำว่า “เพศสภาพ” (gender) และประกาศว่าเพศเป็น “ความจริงทางชีวภาพที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้”

คำสั่งของทรัมป์ไม่ได้จำกัดแค่กีฬาในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย แต่ยังสั่งให้รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่อนุมัติวีซ่าให้หญิงข้ามเพศที่ต้องการเข้ามาแข่งขันในสหรัฐฯ

นอกจากนี้ยังสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศกดดันคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ให้เปลี่ยนนโยบายที่ยอมให้นักกีฬาข้ามเพศลงแข่งได้ ซึ่งปัจจุบัน IOC มีแค่แนวปฏิบัติทั่วไปที่ป้องกันไม่ให้นักกีฬาได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรม

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐฯ จะใช้ “อำนาจและความสามารถทั้งหมดที่มี” ในการบังคับใช้คำสั่งนี้กับการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2571 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ลอสแอนเจลิส ในสหรัฐฯ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 68)

Tags: , , , , , ,
Back to Top