ทางการจีนได้แสดงความไม่พอใจที่สหรัฐฯ มองข้ามความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาเฟนทานิล หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีน 10% โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้ปัญหายาเสพติดที่ทะลักเข้าสู่สหรัฐฯ
หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวที่ปักกิ่งเมื่อวานนี้ (5 ก.พ.) ว่า “สหรัฐฯ ไม่เห็นค่าความร่วมมือที่เราทุ่มเทมาตลอด แถมยังมาเก็บภาษีสินค้าจีน 10% แล้วอ้างว่าเป็นเพราะปัญหาเฟนทานิล”
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า มาตรการภาษีของทรัมป์ที่เพิ่งมีผลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้จุดชนวนสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก จีนตอบโต้ทันควันด้วยการขึ้นภาษีบ้าง พร้อมทั้งออกมาตรการควบคุมการส่งออกและเปิดสอบสวนการผูกขาดของกูเกิล ซึ่งเป็นการตอบโต้ที่คำนวณอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบเศรษฐกิจตัวเอง
ที่ผ่านมา เรื่องความร่วมมือด้านเฟนทานิลถือเป็นความสัมพันธ์เชิงบวกเพียงไม่กี่เรื่องระหว่างสองประเทศ โดยเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว โจ ไบเดน ปธน.คนก่อนหน้า กับสี จิ้นผิง ปธน.จีน ได้ตกลงร่วมมือกันควบคุมการผลิตยาสังเคราะห์อันตรายชนิดนี้ ส่งผลให้สหรัฐฯ ยกเลิกการคว่ำบาตรหน่วยงานในสังกัดกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนที่เป็นแกนนำในการปราบปรามยาเสพติด
ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวในช่วงต้นสัปดาห์นี้ว่า เขาจะโทรศัพท์พูดคุยกับปธน.สี จิ้นผิงในเร็ว ๆ นี้ ก่อนที่เขาจะลดความคาดหวังในเรื่องดังกล่าวลงในวันอังคาร หลังจากที่ภาษีศุลกากรมีผลบังคับใช้ โดยระบุว่า ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน
หลินกล่าวว่า จีน “รับทราบ” คำพูดของทรัมป์แล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าการคุยโทรศัพท์ระหว่างผู้นำทั้งสองจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ พร้อมทิ้งท้ายว่า “สิ่งที่เราต้องการตอนนี้ไม่ใช่การขึ้นภาษีฝ่ายเดียว แต่เป็นการพูดคุยปรึกษากันบนพื้นฐานความเท่าเทียมและเคารพซึ่งกันและกัน”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 68)
Tags: ขึ้นภาษี, จีน, ประธานาธิบดีสหรัฐ, ยาเสพติด, สหรัฐ, เฟนทานิล, โดนัลด์ ทรัมป์