ผลสำรวจชี้ภาษีศุลกากร-เงินเฟ้อเป็นปัจจัยกระทบตลาดมากที่สุดในปีนี้

เจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) เปิดเผยผลสำรวจประจำปีของลูกค้าสถาบันการเงินเมื่อวันพุธ (5 ก.พ.) บ่งชี้ว่า เทรดเดอร์ทั่วโลกคาดว่า ภาษีศุลกากรและเงินเฟ้อจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลกมากที่สุดในปี 2568 ขณะที่พวกเขาเตรียมรับมือกับความผันผวน

เจพีมอร์แกนระบุว่า 51% ของผู้ตอบแบบสอบถาม 4,233 คน ระบุว่า เงินเฟ้อและภาษีศุลกากรเป็นปัจจัยสำคัญที่จะมีอิทธิพลต่อตลาดในปีนี้ โดยในปีที่แล้ว เงินเฟ้อก็เป็นปัญหาหลักเช่นกัน แต่มีเพียง 27% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่กังวลเรื่องนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ขู่ว่าจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ รวมถึงกำหนดภาษีกับบางอุตสาหกรรมหรือบางประเทศ ซึ่งได้สร้างความปั่นป่วนให้ตลาดแล้วในปีนี้

ดัชนีหุ้นสำคัญร่วงลงเมื่อวันจันทร์ (3 ก.พ.) หลังจากที่ทรัมป์ประกาศเมื่อวันเสาร์ (1 ก.พ.) ว่าจะเก็บภาษีรอบใหม่ 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา และ 10% สำหรับจีน อย่างไรก็ตาม ตลาดกลับมาฟื้นตัวในวันถัดมา หลังจากที่ทรัมป์ตัดสินใจเลื่อนการเก็บภาษีจากเม็กซิโกและแคนาดาออกไป 1 เดือน

นักลงทุนจำนวนมากมองว่า นโยบายภาษีของทรัมป์จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น

“เมื่อต้นสัปดาห์ เราเห็นเทรดเดอร์ทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นอย่างมากเพื่อปรับพอร์ตการลงทุน เนื่องจากค่าเงินบางสกุล เช่น ดอลลาร์แคนาดา เปโซเม็กซิโก และเงินหยวนของจีนในตลาดต่างประเทศ เคลื่อนไหว 1-2%” ชี เอ็นเซลู หัวหน้าฝ่ายซื้อขายตราสารหนี้ ค่าเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกของเจพีมอร์แกนกล่าว

ในทางกลับกัน มีเทรดเดอร์จำนวนน้อยลงที่กังวลว่า เศรษฐกิจถดถอยอาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดในปีนี้ โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 7% ที่มองว่าเรื่องนี้เป็นปัจจัยสำคัญ เมื่อเทียบกับ 18% ในปี 2567

เมื่อถามถึงความท้าทายใหญ่ที่สุดในปี 2568 นั้น ความผันผวนของตลาดเป็นประเด็นที่บรรดาเทรดเดอร์พูดถึงมากที่สุด ซึ่งยังคงเป็นปัญหาหลักเหมือนในปี 2567 โดยในปีนี้ 41% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ความผันผวนเป็นปัญหาสำคัญ เพิ่มขึ้นจาก 28% ในผลสำรวจของปีที่แล้ว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 68)

Tags: , , , ,
Back to Top