ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยในวันพุธ (5 ก.พ.) ว่า เขาต้องการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน หลังเดินเครื่องนโยบาย “กดดันขั้นสุด” เมื่อวันก่อน
ทรัมป์ระบุในทรูธ โซเชียลของเขาว่า การดำเนินการเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวควรเริ่มต้น “ทันที” พร้อมยืนยันว่า ข่าวที่สหรัฐฯ และอิสราเอลกำลังร่วมมือกันเพื่อโจมตีอิหร่านเป็นการกล่าวเกินจริง
“ผมสนใจในข้อตกลงสันติภาพนิวเคลียร์ที่ได้รับการตรวจสอบpnopyo (Verified Nuclear Peace Agreement) มากกว่า ซึ่งจะช่วยให้อิหร่านเติบโตและเจริญรุ่งเรืองอย่างสันติ” ทรัมป์ระบุ โดยเมื่อปี 2561 ทรัมป์ได้นำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่เรียกว่า ข้อตกลงร่วมว่าด้วยแผนปฏิบัติการครอบคลุม (Joint Comprehensive Plan of Action) ซึ่งมีปธน.บารัค โอบามา เป็นผู้เจรจา
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวของทรัมป์มีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่เขาลงนามในบันทึกข้อตกลงเพื่อกดดันอิหร่านเต็มรูปแบบ โดยบันทึกดังกล่าวได้สั่งการให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและการคลังสหรัฐฯ ดำเนินนโยบายต่าง ๆ ที่ผลักดันให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านเป็นศูนย์ ซึ่งรวมถึงการส่งออกไปยังจีนด้วย
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว ณ ห้องทำงานรูปไข่เมื่อวันอังคารว่า เขาไม่ได้ยินดีกับการลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว และหวังว่า บันทึกดังกล่าวจะไม่ต้องถูกนำมาใช้
“เราไม่ต้องการมีท่าทีแข็งกร้าวกับอิหร่าน เราไม่ต้องการแข็งกร้าวกับใครทั้งสิ้น แต่พวกเขาจะมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองไม่ได้” ทรัมป์กล่าว และยืนยันกับนักข่าวว่าเขายินดีที่จะเจรจากับอิหร่าน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 68)
Tags: นิวเคลียร์, ประธานาธิบดีสหรัฐ, อิหร่าน, โดนัลด์ ทรัมป์