ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ (4 ก.พ.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชะลอแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดา ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เขาได้ประกาศชะลอแผนการเรียกเก็บภาษีจากเม็กซิโกเช่นกัน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น 180 จุด หรือ 0.4% ขณะที่ดัชนี S&P500 ฟิวเจอร์ บวกเกือบ 0.6% และดัชนี Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ บวก 0.8%
จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาได้ประกาศผ่านทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ในช่วงเย็นวันจันทร์ (3 ก.พ.) ตามเวลาสหรัฐฯ ว่า ปธน.ทรัมป์ได้ตกลงที่จะระงับแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาออกไปอย่างน้อย 30 วัน ซึ่งข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ส่วนในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันจันทร์ ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 600 จุด หรือเกือบ 1.5% ในช่วงแรก หลังจากปธน.ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. เพื่อเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% และเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 10% แต่ดัชนีดาวโจนส์ลดช่วงลบในเวลาต่อมา หลังจากปธน.ทรัมป์ประกาศชะลอแผนการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกในอัตรา 25% ออกไป 1 เดือน
นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยอัลฟาเบท (Alphabet), เมอร์ค (Merck) และเป๊ปซี่โค (PepsiCo) มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในวันนี้ ส่วนบริษัทอื่น ๆ ที่จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้รวมถึง อะเมซอน (Amazon) และอีไล ลิลลี่ (Eli Lilly)
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนธ.ค.และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค.ของสหรัฐฯ ในวันนี้ รวมทั้งจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ในวันศุกร์นี้ (7 ก.พ.) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.พ. 68)
Tags: ดาวโจนส์ฟิวเจอร์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก, ตลาดหุ้นสหรัฐ