“เผ่าภูมิ” มองหุ้นร่วงหนักระยะสั้นไม่น่ากังวล วอนมองยาวพื้นฐานศก.ดี รัฐเร่งกระตุ้นต่อเนื่อง

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวถึงการปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ว่า ในระยะสั้นยังไม่เป็นกังวล แต่อยากให้มองภาพในระยะยาวมากกว่า เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจและเสถียรภาพของไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งส่วนหนึ่ง เป็นผลจากการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของรัฐบาล

“ไม่อยากให้มองเรื่องการแปรผันของราคาในช่วงสั้น เพราะนั่นไม่ได้สะท้อนอะไร…ส่วนในระยะยาว ที่สุดแล้วราคาหุ้นก็จะปรับตัวเข้าสู่พื้นฐาน มั่นใจว่าพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สะท้อนจากตัวเลขเศรษฐกิจหลายส่วน ที่บ่งบอกว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น” รมช.คลัง กล่าว

รมช.คลัง ยอมรับว่าประเด็นเรื่องความเชื่อมั่นเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามรักษาเสถียรภาพ และโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน สะท้อนจากตัวเลขเศรษฐกิจในภาพรวมที่ค่อนข้างดี และเชื่อว่าจะดีอย่างต่อเนื่อง จากกลไกในการรักษาการเติบโต อาทิ โครงการกระจายเม็ดเงิน 10,000 บาท ตั้งแต่ปลายปี 67 และล่าสุดในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นวงเงินแสนกว่าล้านบาท และในช่วง Low season ก็จะมีการกระจายเม็ดเงินอีกระลอก รวมถึงโครงการ Easy E-Receipt เพื่อรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีส่วนที่จะต้องเข้าไปดูแลอย่างละเอียด คือ ภาคการผลิต ที่จะต้องเอาจริงเอาจังมากกว่านี้

พร้อมระบุว่า ในส่วนของกระทรวงการคลัง ยังเห็นพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดี แม้ในระยะข้างหน้า จะยังมีความไม่แน่นอนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ เรื่องนโยบายเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องเตรียมตัวรับมือ

  • พร้อมปล่อยมาตรการกระตุ้นศก. รักษาโมเมนตัมโตต่อเนื่อง

รมช.คลัง กล่าวว่า ในส่วนของนโยบายเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจ อย่างนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น กระทรวงการคลังได้เร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ และภาคส่วนต่าง ๆ ของรัฐ เพื่อเตรียมมาตรการในการรับมือถึงความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยยืนยันว่ารัฐบาลมีความตื่นตัวกับเรื่องนี้ ซึ่งมาตรการที่จะออกมาจะมีทั้งการส่งเสริม และการรับมือผลกระทบในมิติต่าง ๆ หากการหารือลงตัว ก็จะมีการชี้แจงในรายละเอียดต่อไป

ขณะเดียวกัน หลังจากนี้ รัฐบาลจะมีการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกภาคส่วนออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาทิศทางการเติบโตให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นภาคการผลิต ภาคการบริโภค รวมถึงตลาดทุน เพราะเหล่านี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ

  • คลัง จ่อถก ธปท. แก้ปัญหาแบงก์ปฏิเสธสินเชื่อรถกระบะ

นายเผ่าภูมิ ยังกล่าวด้วยว่า กระทรวงการคลัง เตรียมหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับมาตรการเพื่อรองรับการแก้ป้ญหาการปฏิเสธสินเชื่อรถยนต์ โดยเฉพาะรถกระบะที่มีการชะลอตัวอย่างมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการชะลอตัวในภาคการผลิต จากกำลังซื้อที่อ่อนแอลง

“ต้องเข้าใจด้วยว่า สินเชื่อรถกระบะนั้นเป็นกลุ่มเปราะบาง ประชาชนที่เข้าไปขอสินเชื่อ จึงอาจมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ จึงอาจจะสูงตามไปด้วย ดังนั้นภาครัฐจำเป็นจะต้องมีกลไกที่เข้าไปดูดซับความเสี่ยงในส่วนนี้” รมช.คลัง กล่าว

  • ยังหวังเห็น “แบงก์ชาติ” ลดดอกเบี้ยภายในปีนี้

นอกจากนี้ อาจจะต้องมีการหารือกับ ธปท. เกี่ยวกับการรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาท เนื่องจากปัจจุบัน เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงค่อนข้างมาก โดยสิ่งที่กระทรวงการคลังอยากเห็นคือ ค่าเงินที่ไม่ฉวัดเฉวียนจนเกินไป และมีระดับที่เหมาะสมในการแข่งขัน เช่นเดียวกับเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็จะต้องมีการหารือกันต่อไปด้วยเช่นกัน เพราะมองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะต้องสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ เพื่อทำให้ไทยเติบโตอย่างมีศักยภาพในการแข่งขันเรื่องการส่งออกให้ได้

“หากถามว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายตอนนี้ สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจหรือยัง ก็เป็นเรื่องที่ต้องไปหารือกันต่อ เราอยากเห็นการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจให้มากขึ้น เป็นสิ่งที่เราปรารถนาที่อยากจะเห็นสิ่งนี้ในปีนี้ หากเราช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจ กระทรวงการคลังนิด ธปท. หน่อย ตรงนี้จะเป็นความร่วมมือที่ดี” นายเผ่าภูมิ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.พ. 68)

Tags: , , , ,
Back to Top