ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยแพร่บทความเรื่อง “ส่องทีเด็ด DR และ DRx กับข้อดีที่นักลงทุนไทยต้องรู้ ! โดยมีเนื้อหาว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากอัตราผลตอบแทน และเทรนด์การเติบโตที่ค่อนข้างสูง รวมทั้งยังเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยง ที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีพอร์ตการลงทุน ในประเทศด้วยเช่นกัน
ในปัจจุบันมีการเพิ่มทางเลือกการลงทุนหุ้นต่างประเทศ ให้กับผู้ลงทุน เพื่อให้สามารถเข้าถึงการลงทุนในบริษัทระดับโลกต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกผ่านการลงทุนใน DR (Depositary Receipt) และ DRx (Fractional Depositary Receipt) นั่นเอง
การลงทุนใน DR และ DRx นั้น จะมีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจ และข้อดีของการลงทุนมีอะไรที่สามารถช่วยให้ผู้ลงทุนเกิดโอกาสในการลงทุน ในหุ้นต่างประเทศ วันนี้เราจะมาสรุปจุดเด่นต่าง ๆ เหล่านี้ เพื่อให้ผู้ลงทุนทุกคนได้รับรู้ไปพร้อมกัน
ลงทุนตรงในต่างประเทศ VS DR & DRx
จุดเด่นของ DR และ DRx ตามข้างต้น หากนำมาเปรียบเทียบกับการลงทุนหุ้นนอกโดยตรงนั้น จะพบว่า DR และ DRx มีข้อที่น่าสนใจอยู่ 3 ข้อ
1. กำไรจากส่วนต่างราคา ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเหมือนหุ้นไทย
หากพูดถึงเรื่องของการลงทุนหุ้นนอกโดยตรง หนึ่งในประเด็นที่ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วก็คือกำไรจากส่วนต่างราคา จะถูกนับเป็น “รายได้ที่ต้องคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” ร่วมกับรายได้อื่น ๆ และนั่นจึงส่งผลให้กำไรที่ได้รับอาจจะน้อยลงจากการที่ต้องเสียภาษี โดยฐานภาษีสูงสุด 35%
แต่สำหรับ DR และ DRx “กำไรจากส่วนต่างราคา ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเหมือนหุ้นไทย” เนื่องจากเป็นหลักทรัพย์ที่ซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET)
2. สิทธิประโยชน์ เงินปันผลที่เหมือนกับหุ้นไทย
การจ่ายเงินปันผลจากต่างประเทศอาจมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย (WHT) โดยอัตราการหักขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ ทั้งนี้หลังจากมีการแปลงเป็นเงินบาท และหักค่าดำเนินการที่เกี่ยวข้อง ผู้ออกจะประกาศอัตราเงินปันผลของ DR และ DRx โดยผู้ลงทุนไทยจะได้รับเงินปันผลตามที่ผู้ออกประกาศ หลังหักภาษี ณ ที่จ่าย (WHT) 10%
3. ไม่ต้องกังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
สำหรับการลงทุนหุ้นนอกโดยตรง หนึ่งในสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ “อัตราแลกเปลี่ยน” ที่ผู้ลงทุนอาจต้องชำระค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน หรือค่าธรรมเนียมในการโอนเงินระหว่างประเทศเพิ่มเติม ซึ่งแน่นอนว่าในส่วนนี้ ถือเป็นหนึ่งในปัญหา ที่ทำให้ผู้ลงทุน อาจได้รับกำไรแบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
แต่สำหรับ DR และ DRx นั้น ด้วยการซื้อขายทั้งหมดผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) จะใช้เป็นสกุลเงินบาทไทย ในการซื้อขาย ทำให้ผู้ลงทุนสะดวกไม่ต้องคำนวณเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
จุดเด่นของ DR และ DRx
การลงทุน DR (Depositary Receipt) คือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่เกิดจากผู้ออกตราสาร (ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต.) ได้ซื้อหลักทรัพย์อ้างอิงต่างประเทศ เช่น หุ้น หรือ ETF และนำมาจดทะเบียนเป็นตราสาร DR ในตลาดหลักทรัพย์ไทย ซึ่งในปัจจุบันมี DR ให้เลือกลงทุนถึง 44 ตัว (ข้อมูล ณ วันที่ 18 พ.ย. 67)
ส่วน DRx (Fractional Depositary Receipt) จะมีลักษณะที่เหมือนกับ DR เพียงแต่จะเป็นการลงทุนในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายเป็นหน่วยย่อยได้ (0.0001 หน่วย DRx) ซึ่งในปัจจุบัน DRx มีตัวเลือกให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้มากถึง 19 ตัว (ข้อมูล ณ วันที่ 18 พ.ย. 2567 )
แต่ถึงแม้ว่าตัวเลือกทั้ง 2 จะมีความแตกต่างกันในเรื่องขั้นต่ำในการซื้อขาย และรายชื่อบริษัทที่นำมาจดทะเบียนเป็น DR หรือ DRx แต่ถ้าหากมองไปที่ภาพใหญ่ ก็จะพบว่าจุดเด่นต่าง ๆ ของ DR และ DRx ต่างก็มีจุดร่วมที่เห็นได้ชัด ดังนี้
1. สามารถใช้บัญชีหุ้นไทยที่มีอยู่ เพื่อลงทุนได้
สำหรับ DR นั้น เพียงแค่ผู้ลงทุนมีการเปิดบัญชีหุ้นไทยประเภทไหนก็ได้เอาไว้ ก็จะสามารถเริ่มเทรด DR ได้เลยทันที เพียงคีย์ชื่อย่อบนแอป Streaming ได้เลย
ส่วน DRx นั้นผู้ลงทุนที่มีการเปิดบัญชีหุ้นไทยประเภทไหนก็ได้เอาไว้แล้ว ก็สามารถเทรดได้เช่นกัน เพียงต้องแจ้งความประสงค์ว่าต้องการซื้อขาย DRx เพิ่มเติมก่อน ซึ่งผู้ลงทุนสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
– แจ้งความประสงค์ผ่านแอป Streaming ด้วยการกดไปที่ “My Menu” เลือก “DRx” และกดปุ่ม “Request DRx Trading”
– แจ้งความประสงค์ ไปยังช่องทางที่โบรกเกอร์ หรือผู้ดูแลการลงทุนของท่าน ก็จะสามารถซื้อขาย DRx ได้ผ่านแอป Streaming
2. ซื้อขายด้วย “สกุลเงินบาท”
DR และ DRx เป็นตราสารอ้างอิงหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ ผู้ลงทุนสามารถทำการซื้อขายได้ด้วยสกุลเงินบาทแบบเดียวกับการซื้อขายหุ้น โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสกุลเงิน
3. มีงบน้อย ก็เริ่มลงทุนได้
สิ่งที่ DR และ DRx มีเหมือนกัน ก็คือการใช้เงินเริ่มต้นที่น้อย โดยสำหรับ DR เริ่มต้นซื้อขายขั้นต่ำ แค่ 1 หน่วย DR เท่านั้น
ส่วน DRx ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายเป็นเศษหุ้นหรือระบุจำนวนเงินที่ต้องการซื้อได้ จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะในการเริ่มต้นลงทุน โดย DRx นั้น จะมีขั้นต่ำในการซื้อขายเริ่มต้นแค่ 0.0001 หน่วย DRx เท่านั้น
4. กำไรจากส่วนต่างราคาได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเหมือนหุ้นไทย
DR และ DRx ที่เป็นตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) กำไรจากส่วนต่างราคาได้สิทธิยกเว้นภาษีเหมือนหุ้นไทย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DR
1. ช่วงเวลาการซื้อขาย
สำหรับช่วงเวลาการซื้อขายของ DR นั้น ผู้ลงทุนสามารถทำการซื้อขายได้ตามเวลาของตลาดหลักทรัพย์ไทย ในช่วง 9:30 น. – 17:00 น. โดยที่ไม่มีพักกลางวัน
2. การฝากเงินเข้าบัญชี
สำหรับการฝากเงินเพื่อลงทุนใน DR นั้น ผู้ลงทุนสามารถทำการฝากเงินได้เหมือนกับการซื้อหุ้นไทยตามปกติ
3. หน่วยการส่งคำสั่งซื้อขาย
เหมือนการซื้อขายหุ้น ในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) ผู้ลงทุนสามารถส่งหน่วยคำสั่งซื้อขายขั้นต่ำเพียง 1 หน่วย DR
วิธีการอ่านสัญลักษณ์ย่อของ DR จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
– ตัวอักษรด้านหน้า หมายถึง “ชื่อย่อของหลักทรัพย์ต่างประเทศ”
– ตัวเลขด้านหลัง หมายถึง “หมายเลขผู้ออก DR”
ตัวอย่าง BYDCOM80 คือ DR ของหลักทรัพย์ที่ชื่อย่อว่า “BYDCOM” โดย ผู้ออกหมายเลข “80”
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DRx
1. ช่วงเวลาการซื้อขาย
ผู้ลงทุนสามารถทำการซื้อขายได้ตามเวลาของตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่หลักทรัพย์อ้างอิงจดทะเบียนอยู่ ซึ่งประกอบไปด้วย
– US Time Zones (20:00 น. – 04:00 น. / T+1)
– Asia Time Zones (07:00 น. – 17:00 น.)
โดยที่มี Pre-open 15 นาทีก่อนตลาดเปิดซื้อขาย
นอกจากนี้ ผู้ลงทุนสามารถยกเลิกคำสั่งที่ค้างอยู่ก่อนตลาดเปิดซื้อขายได้ด้วยเช่นกัน
2. การฝากเงินเข้าบัญชี
– เข้าไปที่เมนู DRx และกดตรง Portfolio
– จากนั้นให้เลือกช่อง Deposit ซึ่งจะเป็นการฝากเงินด้วยระบบ QR Code Payment
– ใส่จำนวนเงินที่ต้องการฝาก แล้วกด Generate QR Code
– เลือก ‘Save QR Image’ และนำ QR Code ไปสแกนฝากเงินผ่าน Mobile Banking ที่ใช้บริการ
3. หน่วยการส่งคำสั่งซื้อขาย
ผู้ลงทุนสามารถส่งหน่วยคำสั่งซื้อขาย เป็นจำนวนหน่วย DRx หรือจำนวนเงิน ก็ได้เช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.พ. 68)
Tags: DR, DRx, SET, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย