GDP ซาอุฯ ปี 67 โต 1.3% นำโดยภาค Non-oil

เศรษฐกิจซาอุดีอาระเบียกลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 2567 โดยข้อมูลเบื้องต้นที่รัฐบาลเปิดเผยในวันนี้ (30 ม.ค.) ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงขยายตัว 1.3% เทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกิจกรรมนอกภาคน้ำมัน (non-oil) ที่ช่วยหนุน GDP โดยรวม

ตามประมาณการของสำนักงานสถิติแห่งชาติ GDP ในไตรมาส 4/2567 ปรับตัวขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นอัตราการเติบโตรายไตรมาสสูงสุดในรอบ 2 ปี โดยกิจกรรมนอกภาคน้ำมันขยายตัว 4.6%

ในปี 2567 กิจกรรมนอกภาคน้ำมันทำผลงานเหนือกว่า GDP รวมอย่างชัดเจน โดยเติบโต 4.3% ขณะที่ภาคน้ำมันหดตัว 4.5% และภาครัฐขยายตัว 2.6%

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดประมาณการการเติบโตของ GDP ซาอุฯ ในปี 2568 เหลือ 3.3% โดยมีสาเหตุหลักจากการขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมัน พร้อมกับปรับลดตัวเลขคาดการณ์ปี 2569 ลงด้วย

ก่อนหน้านี้ IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของซาอุฯ จะเติบโต 1.4% ในปี 2567 สูงกว่าตัวเลขที่รัฐบาลซาอุฯ ประเมินไว้ที่ 0.8%

“เราต้องระมัดระวังการใช้ GDP เป็นเพียงตัวชี้วัดการเติบโต เพราะยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาประกอบ” โมฮัมเหม็ด อัล-จาดาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวระหว่างการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอสก่อนหน้านี้ในเดือนนี้

“GDP รวมไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือ GDP นอกภาคน้ำมัน ซึ่งเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีมานี้ และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตเร็วยิ่งขึ้นในระยะกลาง”

ซาอุฯ ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกหลายรายการในทศวรรษหน้า กำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ภายใต้กรอบเวลาที่จำกัด เพื่อบรรลุเป้าหมายการปฏิรูปเศรษฐกิจให้พ้นจากการพึ่งพารายได้จากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

ทั้งนี้ ซาอุฯ คาดการณ์ว่าจะขาดดุลงบประมาณ 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 และประเมินว่าจะขาดดุลราว 3% ของ GDP ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากการเพิ่มการใช้จ่ายและการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ภายในประเทศ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ม.ค. 68)

Tags: ,
Back to Top