อีคอมเมิร์ซเส้นทางสายไหม หนุนคนไทยเที่ยวจีน สินค้าไทยบุกตลาดจีน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ถนนคนเดิน “หนานจิงลู่” ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับร้อยปีในเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน ถือเป็น “จุดหมายแรก” ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนไม่น้อยต้องแวะมาเช็กอินบนโลกออนไลน์ เยี่ยมชมบรรยากาศ รวมถึงอิ่มอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มสารพัดเมนู

บรรดาร้านอาหารและเครื่องดื่มในย่านถนนคนเดินสายนี้ เช่น ร้านชาเฮย์ที (Heytea) สาขาห้างสรรพสินค้าซินชื่อเจี้ยเฉิง หรือร้านปิ้งย่างเหิ่นจิ่วอี่เฉียน สาขาห้างสรรพสินค้าตี้อีไป่ฮั่ว ได้รับรองนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวเกาหลีใต้และชาวไทยที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

ปฤณัต อภิรัตน์ กงสุลใหญ่ไทยประจำนครเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า ชาวไทยชอบเที่ยวจีนมาตลอด จึงไม่แปลกที่ไชน่า ทราเวล (China Travel) หรือ “ท่องเที่ยวจีน” จะเป็นกระแส โดยนโยบายฟรีซ่าซึ่งกันและกันระหว่างไทยกับจีนเกื้อหนุนชาวไทยเดินทางเยือนจีนสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยส่งเสริมมิตรภาพและเพิ่มความเข้าใจของประชาชนสองประเทศ

เกศรินทร์ อริยพงศ์ รองเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน กล่าวว่า การที่ชาวไทยนิยมเที่ยวจีนช่วยเสริมสร้างสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม ความเข้าใจซึ่งกันและกัน และโอกาสทางธุรกิจมหาศาล ขณะปัจจุบันกระแสเพลงซี-ป๊อป (C-pop) เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นชาวไทยเพิ่มขึ้นก็ช่วยเพิ่มความเข้าใจซึ่งกันและกันและจำนวนชาวไทยที่เดินทางเที่ยวจีนด้วย

ข้อมูลจากซีทริป (Ctrip) ระบุว่า ยอดจองการเดินทางเข้าจีนของนักท่องเที่ยวชาวไทย ช่วงเริ่มต้นนโยบายฟรีวีซ่าจนถึงวันที่ 11 ม.ค. 2568 เพิ่มขึ้น 372% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนมี.ค. 2566 – ม.ค. 2567 โดยนักท่องเที่ยวช่วงอายุ 26-35 ปี ครองสัดส่วนมากที่สุดถึง 36% ตามด้วยช่วงอายุ 36-45 ปี ที่ 34%

ขณะเดียวกันยอดจองการเดินทางเข้าจีนของนักท่องเที่ยวชาวไทย ช่วงเทศกาลตรุษจีนหรือปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติจีน ปี 2568 เพิ่มขึ้น 128% เมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 2567 โดนมหานครเซี่ยงไฮ้เป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย

ห้วงยามกระแสไชน่า ทราเวล กำลังร้อนแรงเช่นนี้ สินค้าต้อนรับเทศกาลตรุษจีนที่มีกลิ่นอายความเป็นไทยผสมผสานอยู่ด้วยนั้นได้รับความนิยมเช่นกัน โดยปฤณัตกล่าวว่า สินค้าไทยตั้งแต่ของกินจนถึงของใช้มีโอกาสเข้าสู่บ้านเรือนชาวจีนเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน

ปฤณัตกล่าวว่า จีนและไทยมีสายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจใกล้ชิดผูกพันกัน และธุรกิจอีคอมเมิร์ซกำลังมีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นในการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้า โดยเฉพาะ “อีคอมเมิร์ซเส้นทางสายไหม” เป็นสะพานเชื่อมผู้ประกอบการชาวไทยเข้าสู่ตลาดจีนอันกว้างใหญ่และเปี่ยมด้วยพลังความมีชีวิตชีวา

งานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) กลายเป็นเวทีสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งไทยเข้าร่วมงานนี้ทุกปีตั้งแต่เริ่มต้นจัดขึ้นในปี 2561 โดยหน่วยงานเศรษฐกิจและการค้าของไทยนำพากลุ่มเอสเอ็มอี (SME) ที่มีศักยภาพสูงร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์

ปฤณัตกล่าวว่า ปี 2568 ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน จึงหวังใช้โอกาสนี้ผลักดันความร่วมมือด้านการค้า ความคิดสร้างสรรค์ การศึกษา อาหาร แฟชั่น ภาพยนตร์ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

เกศรินทร์ทิ้งท้ายว่า อีคอมเมิร์ซเส้นทางสายไหมมอบโอกาสเติบโตในตลาดจีนแก่ผู้ประกอบการชาวไทย ช่วยให้เอสเอ็มอีไทยได้เรียนรู้และเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวจีนดียิ่งขึ้น นำสู่การปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานที่จะประหยัดต้นทุนของผู้ประกอบการชาวไทย พร้อมกับส่งเสริมการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตรงใจผู้บริโภคชาวจีนยิ่งขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ม.ค. 68)

Tags: , , , ,
Back to Top