ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ศูนย์กลางทางการเงิน (Financial Center หรือ Financial Hub) หมายถึงศูนย์กลางของกิจกรรมทางการเงิน โดยคุณสมบัติสำคัญคือมีสถาบันการเงินหลากหลายประเภทและมีจำนวนมาก มีโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ดี มีความเชื่อมโยงกับประเทศอื่น ๆ สูงซึ่งเอื้อต่อการเติบโตของปริมาณธุรกรรมข้ามพรมแดน มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน รวมถึงมีกฎหมายและเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวย ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมด ช่วยให้ศูนย์กลางทางการเงินมีความพร้อมในการให้บริการทางการเงินที่ครอบคลุมและมีความหลากหลาย
จากรายงาน Global Financial Centres Index 36 (GFCI) ได้ประเมิน “กรุงเทพฯ” ที่อันดับ 95 เมื่อเดือนก.ย. 67 ลดลงจากอันดับที่ 93 เมื่อเดือนมี.ค. 67 ขณะที่หากเทียบกับศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาคหรือโลก อย่างนิวยอร์ก (อันดับ 1) ลอนดอน (อันดับ 2) ฮ่องกง (อันดับ 3) สิงคโปร์ (อันดับ 4) หรือดูไบ (อันดับ 16) จะพบว่า อันดับของไทยยังทิ้งห่างอยู่มาก
ทั้งนี้ เนื่องจากเมืองศูนย์กลางทางการเงินอันดับต้น ๆ เหล่านั้น ได้รับการออกแบบกฎกติกา เกณฑ์ด้านภาษี และโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของประเทศ ที่พร้อมสนับสนุนการเคลื่อนย้ายเงินทุนและการระดมทุนอย่างมาก
นอกจากนี้ เมืองเหล่านั้นยังมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน สอดคล้องกับจุดแข็งทางเศรษฐกิจและการเงินของแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน อาทิ สิงคโปร์มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการทางการเงิน (Wealth Management) ขณะที่ฮ่องกงเป็นประตูทางการเงินสู่จีนและประเทศอื่นในโลก ทำให้เชี่ยวชาญด้านบริการทางการเงินสำหรับกิจการข้ามชาติ เช่น Investment Bank และ Trade Finance เป็นต้น
*จุดแข็งไทย?
จากสายตาของต่างชาติ ไทยถูกมองว่ามีจุดแข็งหลายด้าน โดยในมิติของการค้าภายในอาเซียน เงินบาทเป็นสกุลเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุด รองจากสกุลเงินดอลลาร์ฯ ในการรับชำระค่าสินค้าส่งออก และจ่ายเป็นค่าสินค้านำเข้า กับคู่ค้าในตลาดอาเซียน โดยเฉพาะการค้ากับกัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา
นอกจากนี้ พัฒนาการของตลาดการเงินไทยที่มีความเป็นสากล มีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและโลจิสติกส์ที่ดี อีกทั้งยังมีค่าครองชีพที่อยู่ในระดับที่ยังไม่สูงนัก มีวัฒนธรรมที่หลากหลายและเปิดกว้าง
โดยจะเห็นได้จากภาพที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่ติดอันดับโลก อาทิ InterNations ซึ่งเป็นชุมชนออนไลน์สำหรับชาวต่างชาติ ได้จัดอันดับเมืองที่น่าอยู่และน่าทำงานที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติ ในปี 66 พบว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดอันดับ 9 ของโลกสำหรับชาวต่างชาติ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น คุณภาพชีวิต ค่าครองชีพ และความพึงพอใจในอาชีพการงาน
ขณะเดียวกัน นิตยสาร Time Out จัดอันดับให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของโลกในปี 68 โดยเน้นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม อาหาร และความสุขของคนในเมือง เป็นต้น
ทั้งนี้ จากจุดแข็งข้างต้นทั้งด้านโครงสร้างดิจิทัล โลจิสติกส์ ความเป็นเมืองน่าอยู่ และมาตรฐานของสถาบันการเงินไทย ถือเป็น ‘ปัจจัยตั้งต้น’ สำหรับไทยที่ต้องการขยายบทบาทการเป็นศูนย์กลางทางการเงินในอนาคต
อย่างไรก็ตาม หากต้องการขยายบทบาทของการเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ได้รับการตอบรับจากต่างชาติมากขึ้นกว่านี้ ยังต้องอาศัยการเร่งเพิ่มศักยภาพของแรงงานไทย การสนับสนุนให้มี Talent จากต่างชาติเข้ามามากขึ้น การลดภาษีและการผ่อนคลายเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรค ควบคู่กับการพัฒนาจุดแข็งทางเศรษฐกิจของไทยประกอบด้วย
ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการออกกฎหมายร่างพ.ร.บ.ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจการเงิน พ.ศ…. ขณะที่ยังมีอีกหลายประเด็นที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องยังต้องร่วมมือกันพัฒนา เพื่อให้ไทยสามารถมีพื้นที่ยืนที่ดีขึ้น ในเวทีการเป็นศูนย์กลางทางการเงินโลกอย่างแท้จริง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ม.ค. 68)
Tags: ศูนย์กลางทางการเงิน