SCC แจ้งงบปี 67 กำไรหดวูบ 76% รับผลกระทบปิโตรฯเวียดนาม วางงบลงทุนปีนี้ 3-3.5 หมื่นลบ.

บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย [SCC] แจ้งงบการเงินของบริษัทฯ และบริษัทย่อย (ก่อนตรวจสอบ) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยมีรายได้จากการขาย 511,172 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากปีก่อน จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นของ บมจ.เอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) และมีกำไรสำหรับปีเท่ากับ 6,342 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 76 จากปีก่อน เนื่องจากมีกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในปี 2566 และ SCGC มีผลการดำเนินงานลดลงจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของโรงงานปิโตรเคมีในเวียดนาม ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 SCC มีสินทรัพย์รวม เท่ากับ 861,502 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2566 จำนวน 32,099 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 ท่ามกลางความท้าทาย SCC มี EBITDA อยู่ที่ 15,178 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักจากเงินปันผลรับที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในธุรกิจอื่น (SCG Investment) ในไตรมาส 4/2567 ขาดทุนสำหรับงวดอยู่ที่ 512 ล้านบาท เมื่อเทียบกับกำไร 721 ล้านบาทในไตรมาสก่อน สาเหตุจากผลประกอบการของโรงงานปิโตรเคมี LSP และจากการรับรู้ค่าเสื่อมราคาทั้งหมดของโรงงาน LSP ในขณะที่ไตรมาสก่อน มีรายการเงินสดที่ได้จากสัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยหรือ Interest Rate Swap (IRS) มูลค่า 2,183 ล้านบาท จาก SCGC

รายได้จากการขายอยู่ที่ 130,512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจาก SCGC ขณะที่ค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยจ่ายของ LSP เพิ่มขึ้นประมาณ 1,500 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน จากการที่ LSP เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนตุลาคม 2567 ส่วนเงินปันผลรับอยู่ที่ 7,671 ล้านบาท หลัก ๆ จากธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตร และธุรกิจยานยนต์

อย่างไรก็ตาม SCC คาดว่าจะมี EBITDA ที่ดีขึ้นในปี 2568 ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก

– ราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลงและมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากประเทศจีน ส่งผลดีต่อธุรกิจปิโตรเคมี

– การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐในประเทศไทยคาดว่าจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องงานโครงการจากภาครัฐแนวโน้มเพิ่มขึ้นส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง

– การเติบโตในภูมิภาคยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนจากการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยเฉพาะในประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย

– SCC ดำเนินงานต่อเนื่องในการบริหารจัดการภายใน มาตรการลดต้นทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงการเร่งแผนการดำเนินงานที่สำคัญ

– คาดการณ์รายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนส หรับปี 2568 อยู่ที่ประมาณ 30,000-35,000 ล้านบาท

– SCC เร่งดำเนินงานต่อเนื่อง เช่น เพิ่มสัดส่วนสินค้ามูลค้าเพิ่มสูง ขยายปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ Gen II และ Gen III และเร่งขยายปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำไปยังตลาดอาเซียน SCGC Green Polymer โครงการก๊าซอีเทน LSP และแผนงานการขายสินทรัพย์ (Asset divestments) เป็นต้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ม.ค. 68)

Tags: ,
Back to Top