อาลีบาบา (Alibaba) ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยีจีนเปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) Qwen 2.5 รุ่นใหม่ในวันนี้ (29 ม.ค.) โดยอ้างว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่า DeepSeek-V3 ซึ่งได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมาก
จังหวะเวลาในการเปิดตัว Qwen 2.5-Max ในวันแรกของเทศกาลตรุษจีนซึ่งเป็นช่วงที่คนจีนส่วนใหญ่ใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวนั้น บ่งบอกถึงแรงกดดันจากการผงาดขึ้นมาของดีปซีค (DeepSeek) สตาร์ตอัป AI สัญชาติจีนในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่เพียงสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับคู่แข่งต่างชาติ แต่ยังรวมถึงคู่แข่งในประเทศด้วย
หน่วยธุรกิจคลาวด์ของอาลีบาบาประกาศผ่านบัญชีวีแชทอย่างเป็นทางการว่า “Qwen 2.5-Max มีประสิทธิภาพเหนือกว่า GPT-4o, DeepSeek-V3 และ Llama-3.1-405B แทบทุกด้าน” โดยเปรียบเทียบกับโมเดล AI แบบโอเพนซอร์สที่ก้าวล้ำที่สุดของโอเพนเอไอ (OpenAI) และเมตา แพลตฟอร์มส์ (MetaPlatforms)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า DeepSeek ทำให้ซิลิคอนวัลเลย์สะเทือน หลังเปิดตัวผู้ช่วย AI ที่ใช้โมเดล DeepSeek-V3 เมื่อวันที่ 10 ม.ค. และตามมาด้วยโมเดล R1 เมื่อ 20 ม.ค. จนส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจาก DeepSeek ใช้ต้นทุนการพัฒนาและพลังงานต่ำกว่าคู่แข่ง ซึ่งทำให้นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของแผนการทุ่มเงินมหาศาลของบริษัท AI ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ความสำเร็จของ DeepSeek ยังได้จุดชนวนให้เกิดการแข่งขันอย่างเร่งด่วนในการอัปเกรดโมเดล AI ของคู่แข่งภายในประเทศ
ทั้งนี้ เพียง 2 วันหลังจากการเปิดตัวโมเดล DeepSeek-R1 ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นเจ้าของติ๊กต๊อก (TikTok) ก็ได้ปล่อยอัปเดตโมเดล AI ตัวเอก พร้อมเคลมว่า มีประสิทธิภาพเหนือกว่าโมเดล o1 ของโอเพนเอไอที่ไมโครซอฟท์หนุนหลัง ในการทดสอบ AIME ซึ่งเป็นการวัดความสามารถของโมเดล AI ในด้านความเข้าใจและการตอบสนองต่อคำสั่งที่ซับซ้อน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ม.ค. 68)
Tags: DeepSeek, ปัญญาประดิษฐ์, อาลีบาบา